Category ข่าววันนี้

สถานีกลางบางซื่อ ศ.จ.พิเศษธงทอง จันทรางศุ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ โพสต์ใจความทางเฟซบุ๊ก แสดงความคิดเห็น หลัง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการคมนาคม ตอบกระทู้ถามสด กรณีเปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ เป็น สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ มูลค่ากว่า 33 ล้านบาท ที่ รมว.คมนาคม พูดว่า

“การเปลี่ยนชื่อป้าย เป็นเรื่องประเพณีปฏิบัติ เพื่อความเป็นมหามงคล ไม่ใช่ความต้องการของตนเอง เหมือนการเปลี่ยนชื่อสนามบินหนองงูเห่า เป็นสนามบินสุวรรณภูมิ หรือ สถานที่ราชการหลายแห่ง ก็ดำเนินการลักษณะนี้ด้วยเหมือนกัน”

โดย ศ.จ.พิเศษธงทอง บอกว่า

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นชื่อที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานช่วงวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2543 เพื่อใช้แทนชื่อเดิมเป็น “สนามบินหนองงูเห่า” และก็ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในวันที่ 19 เดือนมกราคม พ.ศ. 2545 ก่อนจะมีการเปิดให้บริการ ในฐานะสนามบินแห่งใหม่ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549

ตามความทรงจำของผม อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไม่เคยมีป้ายชื่อท่าอากาศยานหนองงูเห่าติดตั้งมาก่อนเลย เมื่อสร้างอาคารสำเร็จเรียบร้อย ก็ใช้นามพระราชทาน “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” ประดับติดตั้งอาคารมาตั้งแต่ต้น

นามพระราชทานท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับพระราชทานมา 6 ปีเต็ม ล่วงหน้าก่อนท่าอากาศยาน ดังที่กล่าวถึงแล้ว เปิดให้บริการ

ผมเป็นคนสนใจประวัติศาสตร์ รวมทั้ง ทันเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่ว่านี้ ก็เลยต้องการเอามาเล่าสู่กันฟังครับผม เผื่อมีคนไหนคิดจะเทียบว่ากรณีเหมือนกันหรือไม่ เหมือนกันกับเรื่องราวที่เป็นข่าวอยู่ณ เวลานี้ จะได้เอาไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการไตร่ตรองได้

“ศักดิ์สยาม” การันตีไม่มีอะไรปกปิด ปมเปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ

“ศักดิ์สยาม” ขอรอผลตรวจสอบ ถ้าผลไม่ถูกต้อง ก็ปรับปรุง เผย คกก.เป็นผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหมด ลั่นถ้าเกิดไม่เชื่อชุดนี้ ก็หาไม่ได้แล้ว

5 มกราคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เอ่ยถึง กรณีการตั้งคณะกรรมการพิจารณา ตรวจสอบข้อเท็จจริงการก่อสร้างแผนการแก้ไขป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อ เป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ รวมทั้ง ตราสัญลักษณ์ของรฟท. ว่า พวกเรา ยังไม่ได้บอกว่า ใครถูก หรือ ผิด

ซึ่งคณะกรรมการ ประกอบไปด้วย รองปลัดกระทรวงคมนาคม อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ผู้แทนวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และก็ ตัวแทนผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรม

ส่วนที่มีข้อคิดเห็นว่า บริษัทที่ได้รับเปลี่ยนแปลงโครงงานป้ายเป็นคู่สัญญากับการรถไฟแห่งประเทศไทย สำหรับการสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง จึงทำให้สามารถได้รับเลือกในโครงการนี้ นายศักดิ์สยาม บอกว่า ไม่เกี่ยว การรถไฟฯ อธิบายว่า ขณะสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ทำประกันสัญญากับบริษัทที่ทำการเปลี่ยนป้าย

และก็ มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการให้สอดคล้องกันได้ ไม่อย่างนั้น ใช้เวลาก่อสร้างเสร็จ ไม่รู้ว่าใครควรจะเป็นผู้รับผิดชอบ

อย่างไรก็ดี ขอให้คอยคณะกรรมการตรวจสอบก่อน พร้อมยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรปกปิด โปร่งใส ถ้าผลของการสอบสวนออกมาพูดว่า ถูกก็คือถูก หากไม่ถูกต้อง ก็ต้องแก้ไข เพราะว่า ช่วงนี้ ยังไม่ได้เริ่มเปลี่ยนแปลง ตัวป้ายที่มองเห็นตอนนี้ ยังเป็นป้ายเก่า

ดังนี้ เมื่อตอนเช้า สภาฯ ได้มีการตั้งกระทู้ถามสด ว่าเพราะเหตุใดไม่ตั้งชื่อสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ตั้งแต่ทีแรก สิ่งนี้เป็นเรื่องการดำเนินการตามประเพณีปฏิบัติ อย่างเช่นเดียว กับสนามบินสุวรรณภูมิ

เพราะว่า เมื่อก่อนใช้ชื่อว่า สนามบินหนองงูเห่า ซึ่งตัวสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 พึ่งแล้วเสร็จ ในปี พ.ศ.2564 ใช้ชื่อสถานีกลางบางซื่อ มาวันนี้ได้ขอพระราชทานชื่อ ซึ่งหลายแผนการเป็นแบบนี้ ไม่ได้มีอะไรที่ปกปิด

เมื่อถามว่า บริษัท ที่ได้รับการดำเนินแผนการปรับปรุงแก้ไขป้าย จะต้องออกมาชี้แจงหรือไม่ นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ไม่จำเป็น เพราะเหตุว่า คณะกรรมการที่ตั้ง เป็นผู้ทรงคุณวุฒิทั้งนั้น รวมทั้ง มั่นใจว่า ในประเทศไทย หากไม่เชื่อถือคณะกรรมการชุดนี้ ก็ไม่มีแล้ว หาไม่ได้

ข้อมูลทั่วไป สถานีกลางบางซื่อ

สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ก่อสร้างระหว่างพ.ศ. 2556 ถึง 2564 ใช้งบประมาณในบริเวณสถานีทั้งสิ้น 34,142 ล้านบาท 2 อาคารสถานี มีความยาว 596.6 เมตร ความกว้าง 244 เมตร ความสูง 43 เมตร พื้นที่ใช้สอยในอาคาร รวม 274,192 ตารางเมตร (ไม่รวมพื้นที่สถานีใต้ดิน) 2 ออกแบบภูมิสถาปัตย์โดย บริษัท ดีไซน์ คอนเซปท์ จำกัด

มี 26 ชานชาลา เป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย 24 ชานชาลา และ ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย 2 ชานชาลา

อาคารสถานีมีทั้งหมด 7 ชั้นรวมชั้นใต้ดิน ชั้นที่อยู่ใต้ดิน 2 ชั้นฝั่งใต้ เป็นสถานีรถไฟฟ้ามหานคร ชั้นใต้ดินส่วนที่เหลือ 1 ชั้น เป็นลานจอดรถใต้ดิน ชั้นเหนือพื้นดินทั้งหมด ถูกแบ่งได้เป็นสองส่วน คือ ส่วนบริการรถไฟ รวมทั้ง ส่วนบริการผู้โดยสาร สำหรับส่วนบริการรถไฟ ชั้นระดับดิน เป็นห้องจำหน่วยตั๋ว และก็ โถงพักคอยผู้โดยสาร ชั้นที่สอง ให้บริการรถไฟรางหนึ่งเมตร ชั้นที่สาม ให้บริการรถไฟฟ้าความเร็วสูง และ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์

รวมทั้ง ส่วนบริการผู้โดยสาร ประกอบด้วยชั้นระดับดิน เป็นโถงต้อนรับ พื้นที่ขายบัตรโดยสารสำหรับรถไฟทางไกล รวมทั้ง ศูนย์อาหาร ชั้นลอยเป็นร้านค้า รวมทั้ง ชั้น 3 เป็นพื้นที่สำนักงาน มี สำนักงานใหญ่ของ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ศูนย์ควบคุมการเดินรถไฟฟ้าสายสีแดง และ รถไฟที่ใช้ทางร่วม สำนักงานบริหารโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง แล้วก็ พื้นที่รองรับแขกวีไอพี

สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จะแตกต่างจากสถานีกรุงเทพเดิม เหตุเพราะ ถูกออกแบบให้เป็นสถานีระบบปิด มีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดเทียบเท่ากับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารที่ไม่มีตั๋วโดยสารรถไฟ จะไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปบนชั้นชานชาลาของสถานีได้

ดังเช่น สถานีกรุงเทพเดิม เนื่องจากว่า ชั้นชานชาลา ถือเป็นพื้นที่เขตหวงห้ามเด็ดขาด คนไหนฝ่าฝืน จะถูกฟ้องร้องคดีตามกฎหมาย ที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2543

กองทัพเรือระดมกำลัง ร่วมหน่วยงานเกี่ยวข้อง ขยายวงค้นหาถึงชุมพร ยังไม่พบ หมอแชมป์ ผู้สูญหาย หรือ ผู้เสียชีวิตเพิ่ม ในตอนที่คนเสียชีวิต 6 ศพ พิสูจน์อัตลักษณ์เสร็จแค่ 3 ราย โฆษก ทร. เผย ปูนบำเหน็จผู้เสียชีวิต 5 ชั้นยศ ได้รับเงินชดเชย 1-2 ล้านบาท ยืนยันยังไม่พบ “ต้นเรือพลับ”

ส่วน “หมอแชมป์” ที่ลงไปช่วยบุคคลอื่น แล้วสูญหายไป

มีชื่ออยู่ในกลุ่มผู้หายสาบสูญแล้ว ผู้บัญชาการทหารเรือส่งเรือหลวงบางระจันลงพื้นที่ จัดเตรียมใช้ Sea Fox ถ่ายรูปใต้น้ำ ร.ล.สุโขทัย วางแผนกู้ “ชลน่าน” ได้โอกาสจี้ “บิ๊กตู่” แสดงความรับผิดชอบลาออกจากตำแหน่ง รมว.กระทรวงกลาโหม

ทุกภาคส่วนรวมกำลังค้นหากำลังพล 23 นาย ที่ยังหาย หลังเรือหลวงสุโขทัย สังกัดกองเรือฟรีเกตที่ 1 กองเรือยุทธการ ทัพเรือภาคที่ 1 ถูกคลื่นยักษ์ซัดจมกลางทะเลอ่าวไทย ห่างฝั่ง 19 ไมล์ทะเล อ.บางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กำลังพล 105 นาย ถูกนำขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัย 76 นาย เสียชีวิต 6 ศพ

คนรอดชีวิตรายล่าสุดเป็น พลฯชนัญญู แก่ศรียา ถูกเจอลอยทะเลห่างจุดเรือจมถึง 60 กิโลเมตร เหลืออีก 23 คน ที่ยังจะต้องเร่งค้นหาด้วยความหวัง มีปาฏิหาริย์ให้ทั้งหมดยังปลอดภัย เวลาที่ ญาติยังเฝ้าติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด

ในขณะที่ศูนย์ประสานความช่วยเหลือผู้ประสบภัย เรือหลวงสุโขทัย ที่ท่าเรือประจวบฯ ตำบลแม่รำพึง อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และก็ ที่ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย สโมสรสัญญาบัตร กองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

ฮ.ลำเลียงคนบาดเจ็บ–ผู้เสียชีวิตขึ้นฝั่ง

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 21ธ.ค. ที่ท่าเรือประจวบฯ ตำบลแม่รำพึง อ.บางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือ ได้ลำเลียงพลฯชนัญญู แก่นศรียา ผู้ที่บาดเจ็บ รวมทั้ง ร่างผู้เสียชีวิต คือ พ.จ.อ.สมเกียรติ หมายชอบ ที่ทีมค้นหาจาก ร.ล.ภูมิพล กู้ร่างขึ้นมาได้เมื่อ 19.00 น. วันที่ 20 เดือนธันวาคม มาลงที่ท่าเรือประจวบฯ

โดยคนที่บาดเจ็บ ทีมแพทย์ นำรถพยาบาลรับส่งตรวจรักษาที่ โรงพยาบาลบางสะพาน ส่วนผู้ตาย เจ้าหน้าที่มูลนิธิ ส่งไปพิสูจน์อัตลักษณ์ที่มูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถานบางสะพาน

โดยแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ โดยมีพนักงานที่มีหน้าที่สอบสวน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบางสะพานออกใบมรณบัตร เพื่ออำนวยความสะดวกญาติคนเสียชีวิต โดยเมื่อตอนค่ำ วันที่ 20 เดือนธันวาคมเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือ ลำเลียงร่างผู้เสียชีวิต 5 ศพ

ประกอบด้วย ร้อยโทสามารถ แก้วผลึก สรั่งกล พ.จ.อ.อัซซา แก้วสุพรรณ์ ช่างโซนาร์ พ.จ.อ.อำนาจ พิมที สังกัด สอ.รฝ.4 จ.อ.จักรพงศ์ พูลผล ช่างโซนาร์ และ พลฯอัครเดช โพธิ์บัติ พลเรือ ที่ ร.ล.นเรศวร พบเมื่อช่วงเวลาบ่าย ส่งไปพิสูจน์อัตลักษณ์ที่มูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถานฯแล้ว

ปรับแผนค้นหาถึงชุมพร

ที่ศูนย์ประสานความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ร.ล.สุโขทัย รอบๆท่าเรือประจวบฯ นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งยังกองทัพเรือ ตำรวจน้ำ ฝ่ายปกครองบางสะพาน รวมทั้ง มูลนิธิฯ คิดแผนค้นหากำลังพลที่ยังหายอีก 23 นาย โดย พันตำรวจเอกราม รสหอม ผกก.4 บก.รน. กล่าวมาว่า ภารกิจการค้นหาในวันนี้ ยังมีการสนธิกำลังปูพรมค้นหาอย่างสม่ำเสมอ

โดยมี ร.ล.อ่างทอง ร.ล.กระบุรี ร.ล.ภูมิพล ร.ล.นเรศวร พร้อมเฮลิคอปเตอร์กองทัพเรือ 2 ลำ แล้วก็ อากาศยานไร้คนขับ (UAV) 1 ลำ สำหรับในการปูพรมค้นหาทางทะเลร่วมกับทางตำรวจน้ำ กรมเจ้าท่า กรมทรัพยากรทางทะเล รวมทั้ง ชายฝั่ง ตลอดจนเจ้าหน้าที่กู้ชีพ-กู้ภัย ที่จะร่วมค้นหาตามแนวชายฝั่งตั้งแต่ อำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบฯ ต่อเนื่องไปถึง อ.ปะทิว และก็ อำเภอเมืองชุมพร โดยหวังว่าจะมีข่าวดี พบผู้มีชีวิตรอดเพิ่มเติม

ญาติติดตามการค้นหาผู้สูญหาย

ช่วงเวลาเดียวกัน เครือญาติผู้หายสาบสูญ ต่างมานั่งรอฟังข่าวสารการค้นหาผู้หายสาบสูญอย่างใกล้ชิด โดยมีนายเสถียร เจริญเหรียญ ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมกับ นางฐิตาภา เจริญเหรียญ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงพื้นที่ติดตามเหตุการณ์ เข้าเยี่ยมให้กำลังใจญาติ

นอกจากนั้น ยังมีประชาชนในเขตพื้นที่ อำเภอบางสะพาน และ ใกล้เคียง ต่างทยอยนำน้ำดื่ม และก็ อาหารเข้ามาร่วมบริจาคที่ศูนย์ฯโดยตลอด เพื่อนำไปทำอาหารให้กับกำลังพล เจ้าหน้าที่ ตลอดจนญาติของผู้ประสบภัยต่อไป รวมทั้ง บางส่วนถูกส่งต่อขึ้นไปเป็นเสบียงอาหารให้กับทางเรือหลวงต่างๆ ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ค้นหาผู้สูญหายอย่างไม่ลดละ

ภรรยาสุดทำใจคอยรับศพสามี

ที่ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพล ร.ล.สุโขทัย ที่สโมสรสัญญาบัตร กองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จังหวัดชลบุรี มีญาติของกำลังพลที่หาย มารอฟังความคืบหน้าหลายสิบคน ส่วนมาก มีหวังว่า ญาติจะมีชีวิตรอดปลอดภัย

ในขณะที่บางส่วนจุดธูปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอพรต่อพระอนุสาวรีย์ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือ เสด็จเตี่ย ให้ช่วยปกป้องญาติที่ยังไม่พบ ให้พบตัวอย่างปลอดภัยอย่างรวดเร็ว

โดยนางแก้วมะนี พิมที ภรรยาของ พ.จ.อ.อำนาจ พิมที สังกัด สอ.รฝ. 1 ในคนตาย กล่าวทั้งน้ำตา หลังได้รับการยืนยันว่า สามีเสียชีวิตแน่ๆ ก็เลยมารอรับเพื่อให้สมเกียรติของลูกผู้ชายชาติทหาร ที่ทำงานเพื่อชาติให้ดีที่สุด จนกระทั่งลมหายใจในวาระสุดท้ายของชีวิต

รมช.กลาโหม ติดตามความคืบหน้า

ที่ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ (ศปก.ทร.) กองบัญชาการกองทัพเรือ (บก.ทร.) พระราชวังเดิม พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เข้ารับฟังการบรรยายสรุปผลการปฏิบัติ แล้วก็ การดำเนินการสำหรับเพื่อการค้นหากำลังพลที่ยังหายจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง มี พล.ร้อยเอกเชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสธ.ทร.เข้าร่วม

ประสานหน่วยงานอื่นค้นหาสุดความสามารถ

หลังจากนั้น พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกทร. เปิดเผยว่า ค้นหาพบแล้ว 82 นาย เสียชีวิต 6 นาย แล้วก็ เข้ารับการดูแลรักษาตัวที่ โรงพยาบาล 17 นาย ยังคงหาย 23 ราย

ศปก.ทร.สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือภาคที่ 1 จัดเรือ และ อากาศยาน รวมถึง ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ค้นหา

มีเรือหลวงกระบุรี เรือหลวงนราธิวาส รวมทั้ง เรือหลวงนเรศวร มุ่งเน้นค้นหาในทางทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ในระยะ 40 ไมล์ ทะเลจากจุดเรือจม ยิ่งกว่านั้น ได้ส่งเรือหลวงตากสินเข้าพื้นที่เพื่อเสริม

ตอนที่ ศรชล.จัดเรือตรวจการชายฝั่ง เข้าร่วมค้นหาในพื้นที่ตามแนวชายฝั่ง เสริมด้วยอากาศยานไร้คนขับ UAV พร้อมด้วยประสานไปยังสมาคมเรือสินค้า ในทางต่างๆช่วยตรวจสอบด้วย

พว.ออกแถลงการณ์ พระอาการประชวร “พระองค์ภา” ฉบับที่ 2 พระอาการโดยรวมอาจจะที่ในระดับหนึ่ง ด้านนายกฯนำคณะรัฐมนตรีแล้วก็คู่สมรสจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์แล้วก็เจริญจิตตภาวนา ถวายพระพรชัยมงคลที่ทำเนียบรัฐบาล ขณะที่พสกนิกรทั่วไทยยังร้อยรวมใจร่วมอวยพร สวดมนต์ไหว้พระ ตั้งจิตอธิษฐาน

ขอทรงหายจากพระอาการประชวรโดยด่วน ส่วนชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยงบ้านไล่โว่ อ.สังขละบุรี ร่วมส่งแรงใจตั้งจิตอธิษฐานถวายพระพร “พระองค์ภา”
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ช่วยเหลือทำให้มีชีวิตแล้วก็การดำรงชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกันที่ทำการศาลยุติธรรมออกวิถีทางการจัด

พิธีการทำบุญถวายพระพรฯ 3 ข้อ รวมทั้งขอความร่วมมือ

หน่วยงานในสังกัดงดจัดกิจกรรมคึกคักปีใหม่

พสกนิกรชาวไทยยังคงเฝ้าติดตามพระอาการประชวรของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหา วัชรราชธิดา ด้วยความกังวล แล้วก็ร่วมกันให้พร

ขอให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรในเร็ววัน และเมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 19 เดือนธันวาคมสำนักพระราชวัง เผยแพร่แถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง สมเด็จ พระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรง พระประชวร

ฉบับที่ 2 ความว่า ตามที่พว. ได้มีแถลงการณ์ เรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้า พัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณี สิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงพระประชวรหมดพระสติ ด้วยพระอาการทางพระหทัย แล้วก็ทรงเข้ารับการรักษาพระองค์ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภา กาชาดไทย เมื่อวันที่ 15 เดือนธันวาคม พ.ศ.2565 ความทราบทั่วถึงแล้วนั้น

คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ

เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราช สาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ได้รายงานว่า พระอาการโดยรวมอาจจะที่ในระดับหนึ่ง จังหวะการเต้นของพระหทัยควบคุมได้ด้วย พระโอสถ ผลการตรวจพระหทัย พบว่าพระหทัยยังบีบตัวได้ไม่ดีเท่าที่ควร ผลการฉีดสีของเส้นเลือดพระหทัยไม่พบความผิดปกติ คณะแพทย์ได้ถวายพระโอสถและก็

เครื่องมือเพื่อช่วยการทำงานของพระหทัย พระปัปผาสะ พระวักกะ และก็ติดตามพระอาการอย่างใกล้ติดต่อไป ก็เลยประกาศมาให้รู้โดยทั่ว
ส่วนที่อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ฯ ตลอดทั้งวันที่ 19 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันที่ 4 ที่สภากาชาด ไทยเปิดให้ลงนามอวยพรสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ

เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราช สาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ผู้รายงานข่าวรายงานว่ามีคณะบุคคล หน่วยงาน และองค์กรทั้งภาครัฐและก็ เอกชน ตลอดจนพสกนิกรทุกหมู่เหล่าเดินทาง มาแสดงความจงรักภักดีรวมทั้งลงนามถวายพระพร อย่างเนืองแน่น

อาทิเช่น นายโชติวัฒน์ เหลืองประเสริฐ ประธานศาลฎีกา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ดาโต๊ะ ดร.พัฒนา หลังปูเต๊ะ ปฏิบัติหน้าที่ผู้แทนพระองค์ราชวงศ์กลันตัน มาเลเซีย นายเอ็นโซโคอาเน ซามูเอล มาตาคาเน นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรเลโซโท นายฟาน จี๊ ทัญ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐ สังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย คณะศาลเยาวชนและครอบครัว ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักข่าวกรองแห่งชาติ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล นายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ นางศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหารกลุ่มเดอะมอลล์ นายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ มูลนิธิร่วมกตัญญู เป็นต้น

นอกจากนั้น ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการราชการจังหวัดกาญจนบุรี
นำประชาชนในโครงการมูลนิธิภูบดินทร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่สมเด็จพระเจ้า ลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรม หลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา
ทรงเป็นองค์ประธานกรรมการ ประกอบด้วย อาจารย์จากโรงเรียนบ้านกองม่องทะ สาขาบ้านไล่โว่ แล้วก็สาขาบ้านสาละวะ ตัวแทนจากบ้านไล่โว่และบ้านสาละวะ อำเภอสังขละบุรี สวมชุดชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยง มาร่วมลงนามถวายพระพรพระองค์ภา ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงดูแลช่วยเหลือราษฎรชาวไทยภูเขาจนกระทั่งอยู่ดีกินดี

นายคมสันต์ พิทักษ์ชาตคีรี กำนันตำบลไล่โว่ กล่าวว่า

สมัยก่อนชุมชนของเราดำเนินชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบาก ขาดถนน ไม่สบาย ต้องหามกันออกมารักษา ตั้งแต่พระองค์ทรงเมตตามีโครงการเข้าไปช่วยเหลือ ถนนก็ดีขึ้น มีโรงเรียน สถานีอนามัย สามารถรักษาผู้ป่วยในหมู่บ้านได้ ประชาชนอยู่ดีแฮปปี้มาก ตลอดเวลา 4 ปี

ที่พระองค์ภาเสด็จเข้ามาช่วยเหลือพสกนิกรในพื้นที่ ตนเคยเฝ้าฯรับเสด็จหลายครา บอกได้เลยว่าท่านทรงเป็นกันเองกับชาวบ้านมาก ทุกหนที่เสด็จฯมาจะถามคำถามว่าสบายดีหรือเปล่า ปกติครั้งหลังไม่เกินเดือน เม.ย.ปี 66

จะเสด็จฯ มาเลิศชาวบ้านอีก แต่ทรงพระประชวรเสียก่อน เวลานี้ชาวบ้านชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยงทุกคนเป็นห่วงท่านแล้วก็ต่างส่งแรงใจตั้งจิตอธิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์บันดาลให้ทรงหายจากพระอาการเจ็บป่วย

ประชาชนทุกคนรอท่านเสด็จฯมาเยี่ยมเราเหมือนเดิม

อีกด้านหนึ่งที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและก็ รัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวง สธ. คณะผู้บริหาร ข้าราชการ บุคลากรกระทรวงร่วมพิธีการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ บำเพ็ญทาน

เพื่อถวายพระพรแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ พระองค์ภา

ให้ทรงหายจากพระอาการประชวร แล้วก็มีพระพลานามัยที่แข็งแรง สมบูรณ์ในเร็ววัน

ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวมาว่า ในวันที่ 20 ธ.ค. เวลา 07.30 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและก็ รมว.กลาโหม แล้วก็นางนราพร จันทร์โอชา ภริยานายกฯ เป็นประธานในพิธีการเจริญพระพุทธมนต์และก็เจริญจิตต ภาวนา ถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวง ราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา โดยมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมทั้งคู่สมรส เข้าร่วมพิธี

ขณะที่ นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม เผยออกมาว่า

กรมการศาสนาร่วมกับ 5 องค์การทาง ศาสนา จัดพิธีทางศาสนาถวายพระพรแด่สมเด็จ พระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ให้หายจากพระอาการประชวร รวมทั้งทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง สมบูรณ์อย่างเร็ว มีศาสนาพุทธ จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์แล้วก็เจริญจิตตภาวนา ศาสนาอิสลาม จัดพิธีดุอาอ์ขอพร ศาสนาคริสต์ จัดพิธีบูชาขอบพระคุณ พิธีนมัสการพระเจ้า สวดมนตร์ภาวนาและอธิษฐานถวายพระพร

ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู จัดพิธีสวดมนต์ไหว้พระอวยพร แล้วก็ศาสนาซิกข์ จัดพิธีการสวดอัรดาสขอพรจากพระศาสดาและก็ถวายพระพร ณ ศาสนสถานทั่วทั้งประเทศ ตั้งแต่วันที่ 16 เดือนธันวาคม เป็นต้นไป ส่วนของกระทรวงวัฒนธรรมแล้วก็หน่วยงานในสังกัด ได้จัดโต๊ะหมู่ประดิษฐาน

พระรูปของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ให้พลเมืองร่วมลงนามอวยพร รวมทั้งจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์มอบ พระพรชัยมงคล จึงขอชักชวนศาสนิกชนทุกศาสนา และทั่วประเทศ ได้ร้อยรวมใจ ร้อยรวมพลังด้วยกันประกอบพิธี ณ ศาสนสถานของศาสนานั้น ๆ ทั้งประเทศโดยพร้อมกันกัน

วันเดียวกัน นายธีรศักดิ์ เงยวิจิตร เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม

ได้ลงนามหนังสือเวียน ศย 005/ว.1176 ถึงหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม เรื่อง ทางการจัดพิธีการบำเพ็ญ กุศลเพื่อถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้า พัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณี สิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และทางการจัดกิจกรรมปีใหม่ พุทธศักราช2566

มีใจความสำคัญว่า เพื่อเป็นการแสดงความภักดี และก็ร่วมทำบุญเพื่อถวายพระพรแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหา วัชรราชธิดา ให้หายจากพระอาการล้มป่วยโดยเร็ว

สำนักงานศาลยุติธรรมขอเชิญชวนหน่วยงานในสังกัดดำเนินการ ดังนี้

1.ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์และพิธีขอพรตามหลักของแต่ละศาสนากับคณะสงฆ์และผู้นำศาสนาทุกศาสนาในจังหวัด สำหรับหน่วยงานในส่วนภูมิภาคสามารถเข้าร่วมพิธีกับทางจังหวัดได้

2.พิจารณาจัดพิธีทำบุญตักบาตร บริจาคโลหิตหรืออย่างหนึ่งอย่างใดแล้วแต่เห็นสมควร

3.พิจารณาจัดพิธีบำเพ็ญสาธารณกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เช่น ปล่อยปลา หรือปล่อยสัตว์ โดยให้ซื้อปลาหรือสัตว์ที่จะทำการปล่อยจากท้องตลาด หรือแหล่งจำหน่ายเพื่อการบริโภคเป็นหลัก ทั้งนี้ การดำเนินการตามข้อ 1-3 ไม่สามารถเบิกจ่ายจากงบประมาณได้ อนึ่ง สำนักงานศาลยุติธรรมขอความร่วมมือหน่วยงานในสังกัด งดจัดกิจกรรมรื่นเริงเนื่องในโอกาสเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ปี 2566 จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณาดำเนินการต่อไป

นอกนั้น นักข่าวกล่าวว่า พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีหนังสือเลขที่ พว.0202.2/22052 ลงวันที่ 16 ธ.ค.2565 เรื่อง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เชิญพระราชกระแสทรงขอบใจ

ถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข โดยมีใจจุดสำคัญว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรวมทั้งสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เชิญชวนพระราชกระแสมาแจ้งแก่ท่านว่า

ทรงจับใจพระราชหฤทัยอย่างยิ่งและก็ทรงขอบใจที่คณะแพทย์ พยาบาล แล้วก็เจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขได้ถวายการรักษา สมเด็จ พระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี

กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา อย่างสุดความสามารถความสามารถ อีกทั้งขอให้ทุกคนมีกำลังใจที่จะปฏิบัติหน้าที่ประโยชน์ของประเทศชาติรวมทั้งสามัญชนสืบไป

รายการโหนกระแส วันนี้ เปิดใจนักเรียน ร้องไห้ไหว้ นายทุน ปิดทางเข้าออกโรงเรียน บนเกาะหลีเป๊ะ ตัวแทนชาวบ้านจี้สอบ ได้เอกสารสิทธิ์โดยชอบหรือไม่ เปิดเผย ซ้ำรุกที่อุทยาน

รายการโหนกระแสวันที่ 15 เดือนธันวาคม 65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ได้สัมภาษณ์ ป้าดุก พิชญา แก้วขาว ตัวแทนมูลนิธิชุมชนไท ซึ่งเป็นตัวแทนชาวบ้าน , เรณู – ละออง ชาวบ้านที่ถูกนายทุนแจ้งความบุกรุก ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือ ทนายแก้ว รองประธานคณะกรรมการ เผยแพร่กฎหมาย สภาทนายความ รวมทั้ง พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ และก็ ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ

ประเด็น นายทุน มันอย่างไรกันแน่ เห็นเด็กนักเรียนมาร้องห่มร้องไห้?

ป้าดุก : ที่จริงรากของปัญหา เรา คิดว่า ออกเอกสารสิทธิ์โดยไม่ถูกต้อง ครอบเส้นทางสาธารณะ ที่ชาวบ้านเดินกันมา 4 รุ่นคน ไม่น่าต่ำกว่า 100 ปี อยู่กัน 1,500 คนที่อยู่ที่นั่น กลุ่มคนเหล่านี้ เขาประกาศว่า จะอยู่กับสยาม ทำให้เกาะหลีเป๊ะ ซึ่งอยู่ห่างไกลจากฝั่งไป 60 กว่ากิโล เป็นของไทย ทำให้พวกเรา ได้ทะเลละแวกนั้นมาทั้งหมด นี่คือที่มาที่ไป

แล้วไปเกี่ยวอะไรกับที่ดินแปลงนี้ เพราะอะไรนายทุน ไปจองซื้อตรงนี้ แล้วมากั้นรั้ว เกิดอะไรขึ้น?

ป้าดุก : คือ ชาวเลเขาอยู่กันแบบพออยู่พอกิน ไม่ได้ถือเอกสารสิทธิ์ ไม่ได้แบ่งเขตอะไรกัน บ้านส่วนใหญ่ ก็อยู่ติดทะเล เขาต้องออกทะเล มีเรือ พอมารุ่นที่มีเรื่องเอกสารสิทธิ์ การท่องเที่ยวเข้ามาด้วย ทำให้เขาถูกกดดัน ไม่เรียกว่า ข่มขู่ แต่ถูกกดดัน พูดว่า ที่ดินที่ตรงนี้ เป็นของฉัน โดยที่ชาวบ้านไม่เคยรู้

ที่ตรงจุดนี้ มันคืออะไร ที่เกิดกรณีพิพาท มันคืออะไร?

ป้าดุก : ตรงจุดนี้ เป็นจุดที่มีโรงเรียนอยู่ มีทางเข้าออกทะเล

แสดงว่า คนมาซื้อที่ และก็ ไล่ที่ชาวบ้าน มาซื้อ น.ส.3 คือหนึ่งในคนที่รุกที่อุทยานด้วย?

ป้าดุก : ใช่ค่ะ

เขาฟ้องเราว่าอะไร?
เรณู : บุกรุกค่ะ ให้รื้อถอน กลายเป็นจำเลยแล้ว

เขาให้ออก เพราะเหตุว่า เขาซื้อมา แล้วแท้จริงๆ เป็นของใคร?

เรณู : ตาของเรา กล่าวว่า เป็นของคุณตา คุณตาไม่รู้หนังสือ คุณตา ก็ไม่รู้ว่า จะไปออกเอกสารสิทธิ์ตรงไหน คุณตาไม่เคยบอก คือชาวบ้านใครมาอาศัย ก็ขอตา ตาก็ให้อยู่เป็นกลุ่มที่นั่นหมด

ฝั่งเจ้าของที่ปัจจุบันนี้ ที่กล่าวว่า ไปซื้อที่ดินแปลงนี้มา เขาซื้อจากใคร?

ป้าดุก : ซื้อจากนางดารา ลูกสาวโต๊ะคีรี หนึ่งของชาวเลรุ่นแรกที่เข้ามาอยู่ ออกเอกสารสิทธิ์ไปครั้งแรก 51 ไร่ สค. 1 พอมารังวัดครั้งที่สอง เป็น 81 ไร่ พอมาเป็น น.ส.3 เวลานี้ 140 ไร่

คนมาซื้อแปลงนี้เป็นนักธุรกิจ ที่รุกอุทยานด้วย?

ป้าดุก : คนนี้แหละค่ะ เขาไปสร้างรีสอร์ตรุกอุทยานค่ะ

พี่ต้องการให้เอาที่แปลงนี้คืนมาเป็นสาธารณะประโยชน์ หรือยังไง?

ป้าดุก : ให้เปิดทางก่อน

มุมนายทุน จะยังไง?

พันตำรวจตรีวรณัน : หนึ่ง เรา ดูก่อนว่า ขั้นตอนการได้มา ซึ่งเอกสารสิทธิ์ชอบมั้ย หากไม่ชอบ กระบวนการต่อจากนั้น ก็ไม่ชอบ สิทธิ์ก็ไม่ได้ ประเด็น คือ จะเป็นความผิด ฐานบุกรุกหรือไม่ เดี๋ยวไปดูข้อเท็จจริงตามทีหลัง แต่ว่าประเด็นเรื่องการเปิดทาง ที่ทนายแนะนำ ก็ถูกทางแล้ว ไปใช้สิทธิ์ทางศาล

ทนายความแก้ว : ถ้าหากเรา จะไปรื้อยกแผงเหล็กออก ตรงนี้ เรา ทำไม่ได้ การที่จะเอาออกได้ พวกเรา ก็ต้องใช้สิทธิ์ทางศาล ร้องเข้าไป ให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองระหว่างพิจารณาคดีก่อน เพราะฉะนั้น พี่ต้องรีบดำเนินการร้องต่อศาล จะเอาไปรื้อถอนเองจะกลายเป็นข้อหา ทำให้เสียทรัพย์ ตรงนี้ พี่ต้องระมัดระวังครับผม

ฝั่งพี่ได้รับความเดือดร้อนอย่างไร?

เรณู : ในขณะนี้ คือ มีคดีฟ้องร้องอยู่ ในตอนนี้ ยังเข้าออกบ้านได้ แต่ว่าก็กลัว

ป้าดุก : เขาก็ติดป้ายว่า ห้ามใครเดินเข้ามาในที่ดินของเขา พี่น้องเขาก็เลยกลัว

เด็กนักเรียนอยู่ในสาย เดือดร้อนอย่างไร?

นักเรียน : เข้าออกโรงเรียนยาก เพราะเหตุว่า มีรั้วกั้นครับ

ขึ้นเรืออ้อมหน้าชายหาดได้ จริงมั้ย?

นักเรียน : จริงนะครับ แต่ว่าใช้เวลานาน มันไกลด้วยครับผม ไม่โอเค ถ้านั่งเรือไป

สิ่งที่เด็กๆทำกัน ทำกันอย่างไร?

นักเรียน : ปีนรั้วนะครับ เขาก็ยังกั้นอยู่ เด็กนักเรียน ก็จะต้องใช้วิธีนั้น ซึ่งมันเสี่ยงอันตรายมากกับชีวิตมากเลยครับผม

หากปีนรั้วอย่างนี้ ทางเขาก็สามารถแจ้งบุกรุกได้เหมือนกัน?

ทนายแก้ว : ถูกครับ กรณีนี้ ความผิดฐานบุกรุกชัดเจน ด้วยเหตุว่า เขาก็มีสิทธิ์คุ้มกันที่เขาอยู่แล้ว แต่ว่าการที่น้องๆปีน ถึงจะอ้างเหตุว่า เรา จะเข้าไปเรียนหนังสือ แต่พวกเราจำเป็นต้องไปว่ากัน ว่าตัวนายทุนมีสิทธิ์ปิดมั้ย ต้องคอยให้ทนายไปดำเนินการฟ้อง เพื่อเพิกถอนก่อน

ประเด็นการฟ้องร้องเข้าใจ แต่ปัญหาเร่งด่วน ที่จำเป็นต้องแก้ คือ จุดที่เด็กนักเรียน จำเป็นต้องไปเรียน จะจัดการกับปัญหานี้ ได้อย่างไร สมมตินายทุนเขาซื้อที่ดินแปลงนี้ถูกต้องหมดเลย เขาอ้างเป็นที่ดินของเขา จะแก้ไขอย่างไร?

ทนายความแก้ว : ก็ต้อง ดูว่า ไอ้ที่ตรงนี้ เป็นทางสาธารณะที่คุณมีสิทธิ์ซื้อหรือเปล่าก่อน หากมีทางสาธารณะเป็นส่วนหนึ่งในโฉนด ที่คุณจะซื้อเอกสารสิทธิ์ คุณก็ซื้อไม่ได้ เพราะว่า กฎหมายระบุชัดเจนว่า ทางสาธารณะประโยชน์ของแผ่นดิน มันจะกระทำการซื้อขายจับจองกันไม่ได้ จะต้องพิสูจน์กันว่า พื้นที่ตรงนี้ เป็นทางสาธารณะอยู่

วันนี้ไปเรียนกันยังไง?

นักเรียน : ปีนรั้วข้ามมาครับ ทั้ง 300 คนนะครับ

ไปขอนายทุนหรือยัง?

นักเรียน : เคยขอร้อง แต่เขาไม่สนใจพวกหนูเลย

ทางโรงเรียนว่ายังไง?

นักเรียน : ทางโรงเรียนไม่ได้ว่าอะไร แต่พวกเราเป็นคนจะต้องเข้าโรงเรียน มันก็ยาก

จากที่เห็นมากับตา ประเมินอย่างไร?

อนุชา : พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้ง เด็กนักเรียน บิดามารดา ผู้ปกครอง วิถีชีวิตเขา เขาอยู่กันมาเป็น 100 ปี ตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ จนถึงตอนนี้ เขาก็ใช้เส้นทางนี้ เป็นเส้นทางหลัก แล้วย้ายถิ่นฐานกันตลอดมา เพราะ ถูกความเจริญก้าวหน้า เข้ามาครอบงำ ในวิถีชีวิต เป็นอะไรที่น่าเห็นใจมาก

ประเด็นที่จะคุยกับนายทุน มีอะไรบ้าง?

อนุชา : จากการสอบถาม ทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทางเส้นนี้ เขาใช้เป็นทางหลักในชีวิตประจำวันมาเป็นเวลายาวนานแล้ว โรงเรียน ก็ใช้ทางนี้ ไม่ใช่นักเรียน เรียนอย่างเดียว แม้แต่เขาเป็นชาวเล เขาก็ใช้วิถีชีวิต สำหรับการหาเลี้ยงชีพกับทางนี้ด้วย

ไม่ใช่เฉพาะนักเรียนอย่างเดียว ก็ไม่มีเส้นทางเส้นอื่นให้เขาได้ออกมาดำเนินชีวิตตามปกติ ผมมีความรู้สึกว่า มันเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างมาก ที่เรื่องนี้จะต้องไปสู่กระบวนการยุติธรรม อย่างเต็มรูปแบบ

อีกกรณี ชาวบ้านก็กังวลใจเช่นกัน มองอีกมุมนึง คือ มีเด็กๆเด็กนักเรียน 300 คน รวมถึง ชาวบ้านแถวนั้น เคยไปขอนายทุนท่านนั้น กล่าวว่า ขอเถอะอย่าปิดเลย แต่ว่าเขาก็ไม่คุยด้วย เขาติดเลยว่า บุกรุกมีโทษตามกฎหมายต่างๆนานา ประเด็นแบบนี้เหมือนเขาไม่ได้กลัวอะไรหรือเปล่า?

อนุชา : ไม่เป็นไรครับผม เดี๋ยวจำเป็นต้องดำเนินงานตามกฎหมาย อย่างเต็มที่ เมื่อกี้นี้ได้ยินชื่อท่านเลขาฯ ธนกฤต เรื่องนี้จำเป็นต้องให้กระทรวงยุติธรรมเป็นเจ้าภาพ

สำหรับในการบริหารจัดการ ในส่วนกระบวนการยุติธรรม และก็ เรียกร้องสิทธิ์แทนพี่น้อง ที่เขาขาดที่พึ่ง ผมคิดว่า ประเด็นนี้ ไม่เหลือบ่ากว่าแรงกระทรวงยุติธรรม ที่จะมาดำเนินการ หากเจ้าของ หรือ คนได้รับสิทธิ์ ถ้าเกิดเขามีความคิดว่า เขาดำเนินการถูกหรือไม่อย่างไร เดี๋ยวค่อยมาว่ากัน

ต้องการบอกอะไรกับท่าน?

ป้าดุก : เรื่องเร่งด่วนค่ะ ด้วยเหตุว่า เวลานี้ เด็กก็ไม่ได้ตั้งใจเรียน พอเด็กไปนั่งเรียน เขาก็มาเชื่อมเหล็กที่จะปิด พี่น้องก็เก็บเต็นท์มา 4 รอบแล้วค่ะ พอพี่น้องไม่มาเฝ้า เขาก็เอาคนงานมาก่อสร้าง เป็นอย่างนี้เมื่อวันที่ 26 จนถึงวันนี้ พี่น้องคุยกับปลัดเรา คุยกันเข้าใจว่า ถอยนะ วิ่งกันออกมา จำเป็นต้องมาเฝ้าไม่ให้เขาเชื่อมเหล็กสำเร็จ ศาลจะนัดสอบปากคำอาทิตย์หน้า

อนุชา : ผมลงมาพูดคุยกับพี่น้อง ทั้งยังผู้บัญชาการ รองผู้บัญชาการ ภาค และก็ บิ๊กโจ๊ก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทางดีเอสไอก็จะได้เฝ้าระวัง เพื่อให้มีการพูดคุยหลายมิติ ให้เกิดความเป็นธรรม ไม่ต้องเป็นห่วงครับผม ผมได้คุยกับพี่น้อง ในส่วนแกนนำ พี่น้องต่างๆ ออกจะชัดเจน

สำหรับในการเดินทางระยะยาว เพื่อลูกหลาน เพื่อให้เขามีชีวิต และก็ การดำรงชีวิตที่ดียิ่งขึ้นด้วย ไม่ใช่แค่ในเวลานี้เท่านั้น คุยกันในส่วนระยะยาวที่พวกเราจะดูแล

ประกันสังคม X ธอส. ปล่อยกู้เงินให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 ซื้อบ้านได้ ดอกเบี้ยคงที่ 5 ปี 1.99% ต่อปี
นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.กระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้ นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน

ระหว่างสำนักงานประกันสังคมกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ โดยมี นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับนายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์

โดยมีผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามฯ ณ ห้องประชุมชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน นายสุรชัย กล่าวว่า

รัฐบาลภายใต้การนำของท่าน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างหลักประกันความมั่นคงให้แก่ผู้ใช้แรงงาน ซึ่งบ้านหรือที่อยู่อาศัยเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงให้ผู้ใช้แรงงานได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่

ในปัจจุบันการที่จะซื้อบ้านแต่ละหลังมีราคาแพง

ท่านสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีมีแนวคิดที่จะช่วยเหลือลดค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกันตนที่ยังไม่มีบ้าน ได้มีบ้านเป็นของตัวเองไว้ได้อยู่อาศัยในตอนเกษียณ จึงได้ให้สปส.เร่งดำเนินโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน โดยให้ร่วมมือกับธอส. จัดโครงการดังกล่าวขึ้นมา ภายในวงเงินจำนวนไม่เกิน 30,000 ล้านบาท

ด้าน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่า

โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตนนี้สำนักงานประกันสังคมได้ลงนามบันทึกข้อตกลงกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ เพื่อให้ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม มาตรา 33 ที่จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน สามารถใช้สิทธิ ในการลดอัตราดอกเบี้ย สินเชื่อที่อยู่อาศัย

ซึ่งผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิในการไถ่ถอนจำนองที่อยู่อาศัย จากสถาบันการเงินอื่น รวมถึงเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในบัญชีเงินกู้ที่กู้อยู่กับธอส.

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวอีกว่า ในวันนี้ ธอส.มีความยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสำนักงานประกันสังคม ซึ่งธนาคาร ธอส.พร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนตามโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน

โดย ธอส. พร้อมที่จะช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายด้านการชำระเงิน
งวดที่อยู่อาศัยผ่านสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ อัตราคงที่ ปีที่ 1-5 ปี เท่ากันกับ 1.99% ต่อปี ปีที่ 6–8 เท่ากับ MRR-2.00% (4.15%) ต่อปี และปีที่ 9 จนไปถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR-0.50% (5.65%) ต่อปี

(ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส.อยู่ที่ 6.150% ต่อปี) ผ่อนนานสูง 40 ปี ให้กู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท โดยผู้ประกันตนสามารถขอรหัสเข้าร่วมโครงการผ่าน Application : GHB ALL หรือ GHB ALL GEN

ได้ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. 2565 เวลา 8.00 น. ถึงวันที่ 15 ม.ค. 2566 เวลา 24.00 น. ซึ่งผู้ประกันตนจะได้รับรหัสเข้าร่วมโครงการผ่าน GHB Buddy ใน Line หลังจากนั้นนนำรหัสมาประกอบการยื่นขอสินเชื่อได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ

ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้ประกันตนที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถโหลด GHB ALL GEN ได้ที่ App Store, Google Play และ App Gallery สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์

และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Mobile Application : GHB ALL,Mobile Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้ประกันตนที่สนใจ สามารถติดต่อขอหนังสือรับรองสถานะความเป็นผู้ประกันตนแบบอิเล็กทรอนิกส์กับสำนักงานประกันสังคมทุกสาขา

เพื่อประกอบการยื่นกู้กับธอส. ได้ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. 2565 ถึง 19 ธ.ค. 2566 และสามารถทำนิติกรรมภายในวันที่ 31 ม.ค. 2567” สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่

ทั้ง 12 แห่ง สำนักงานประกันสังคมจังหวัด/ สาขา/ ที่ท่านสะดวก หรือสามารถโทรสายด่วน 1506 สอบถาม ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sso.go.th

ประกันสังคม ม.33-ม.39 รีบไปใช้สิทธิทำฟันฟรีก่อนหมดปี เช็กเลยมีรายการไหนบ้าง?

ประกันสังคม “ม.33-ม.39” รีบไปใช้สิทธิทำฟันฟรี งบ 900 บาท ก่อนหมดปี 2565 ไม่ต้องสำรองจ่าย เช็กเลยทำรายการไหนได้บ้าง
ประกันสังคมให้สิทธิทำฟันฟรี งบ 900 บาทต่อปี

ไม่ต้องสำรองจ่ายให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 และผู้ประกันตน ม.39 (ไม่นับผู้ประกันตนมาตรา 40) สามารถทำฟันฟรีได้ ไม่ต้องสำรองจ่าย ใช้แค่บัตรประชาชนใบเดียวเท่านั้น ได้สิทธิรักษา ดังนี้

1 ขูดหินปูน
2 อุดฟัน
3 ถอนฟัน
4 ผ่าฟันคุด

แต่ถ้าหากค่ารักษาเกินงบ 900 บาท ผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินส่วนเกินเอง สามารถไปคลินิก หรือสถานพยาบาลที่มีป้ายสิทธิทำฟันประกันสังคม 900 บาท ไม่ต้องสำรองจ่าย

ผู้ประกันตนที่จะใช้สิทธิได้ต้องส่งเงินสมทบมาแล้วครบ 3 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนวันรับบริการทางการแพทย์ แต่ถ้าหากลาออกจากงานแล้ว ยังไปทำฟันได้ เพราะว่าทางประกันสังคมยังคุ้มครอง 6 เดือน อย่างไรก็ตาม ก่อนจะไปทำฟันควรเตรียมตัวโดยมีรายละเอียดดังนี้

1. ควรแปรงฟันให้สะอาด เพื่อความมั่นใจของเราเอง รวมถึงทันตแพทย์จะได้แนะนำได้ในจุดที่เราอาจยังดูแลไม่ทั่วถึง จะได้ปรับการทำความสะอาดและดูแลช่องปากได้ดีกว่าเดิม

2. ใครที่มีโรคประจำตัว หรือแพ้ยา ควรแจ้งให้ทางทันตแพทย์หรือคลินิกได้ทราบไว้ จะได้ประเมินเบื้องต้นได้ว่ามีผลต่อการรักษาหรือไม่

3. ควรมีการนัดหมายหรือจองเวลาล่วงหน้า เพื่อที่ทั้งฝ่ายตัวเราเองและคลินิกจะได้มีการเตรียมตัวและวางแผนการรักษาให้พร้อม
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสังคมได้ที่ www.sso.go.th หรือโทรสายด่วน 1506 ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

เปิดประวัติ เน็ตไอดอลสาวหมวยสายแซ่บ คะแนน กนกญาดา กับเงื่อน สวมรอยใช้ชื่อ-สกุล รับงาน จนเป็นเรื่อง !

ล่าสุด เกิดเรื่องฉาว วงการเน็ตไอดอลประเทศไทย เมื่อมีผู้เสียหายชื่อ”น.ส.กนกญาดา จิตรอำพัน” อายุ 24 ปี หรือน้องจอย พร้อมครอบครัวเดินทางดำเนินคดีกับ เน็ตไอดอลสาวสอง มีชื่อเสียงหลังจาก นำบัตรประชาชนแล้วก็ ข้อมูลส่วนตัว ไปแสวงหาผลประโยชน์ เชิญเชิญชวน เล่นพนันออนไลน์ โฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จนตนเองถูกออกหมายเรียก

จากหลายหน่วยงาน เปิดประวัติ คะแนน กนกญาดา เน็ตไอดอลสาวหมวย สุดแซ่บ

สายขาว สว่างโอโม่ ที่ขยันทำคอนเทนต์อวดความเผ็ดร้อน จนยอดวิวใน TikTok ทะลุล้านวิวแทบทุกคลิป ข้อมูลส่วนตัวที่เธอนั้นเปิดเผยให้พวกเราได้ทราบก็จะมี ชื่อ น้องคะแนน ที่เปิดเผยในวงการชื่อ กนกญาดา จิตรอำพัน

เกิดวันที่ 24 ตุลาคม ความสูง 165 เซนติเมตร รูปร่าง 36-25-33 นิสัยส่วนตัว เฟรนด์ลี่ สนุกสนาน ยิ้มเก่ง บ้านเกิดอยู่ที่กรุงเทพ ด้านการศึกษาลงไว้ว่าเคยเรียนที่อัสสัมชัญคอนแวนต์ สีลม แล้วไปต่อระดับอุดมศึกษาที่ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

ผลงาน

แจ้งเกิดจากเรื่องราว ที่สุดฮือฮา ในโลกโซเชียลทำ คลิปล้อเลียน กระแสด้วยการทำเป็นแม่ค้า ขายมะพร้าวหลังรถกระบะแห่งหนึ่งทำเอาชาวเน็ต ตามหากันวุ่นจากความดังกระแสนี้ เลยทำให้น้องมีชื่อเสียงมากขึ้น

มีผู้ติดตามใน TikTok มากกว่า 2 ล้านคน ทั้งเธอนั้นเคยได้รับรางวัล FRESHY GIRL 2016 ในขณะ ที่กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ น้องคะแนน ยังเคยผ่านการเล่นซีรีส์เรื่อง ฮอร์โมน 3 มาแล้ว นอกจากนั้นยังเคย

ถ่ายโฆษณาสินค้าแบรนด์ดังอีกหลายตัว แต่จุดเปลี่ยนคือ เธอนั้นผันตัวมาถ่ายแบบเซ็กซี่ แล้วก็คิดคอนเทนต์แนวเซ็กซี่เพื่อสร้างคาแรกเตอร์ให้ตนเอง โดยคนเริ่มรู้จักเธอนั้นจาก ภาพการเป็นแม่ค้าขายขนมครก ใส่เสื้อแหวก อกโนบรา ซึ่งเธอนั้นบอกว่าทุกอย่าง คือคอนเทนต์ ไม่ใช่แม่ค้าจริง ๆ แต่จะเลือกตัดชุดแล้วก็ ถ่ายภาพแนวเซ็กซี่ให้ ทันกระแสสังคม จึงทำให้น้องคะแนนได้รับความนิยม ที่ผ่านมาก็มีประเด็นให้ ได้เป็นกระแสเมื่อเธอนั้นประกาศขายไอโฟนพร้อมรูปในเครื่อง ทำเอาชายหนุ่ม ๆ แห่อินบ็อกซ์เข้า ไปติดต่อขอซื้อ ทั้งเสนอราคามากถึง 4 แสนบาท รวมทั้งเธอนั้นเป็น ผู้ครอบครองแบรนด์ Let me in one ครีมออร่า ยังเป็นพริตตี้ ที่ออกบูธมากมายมาก ๆ

คะแนนเน็ตไอดอลสาว ข้ามเพศ ขอโทษสวมรอยใช้ชื่อ รุ่นน้องหญิง

อ้างถูกโฉลก ขอเปลี่ยนนามสกุลให้ต่างกัน จากกรณี น.ส.กนกญาดา หรือ จอย อายุ 24 ปี พร้อมครอบครัว เดินทางเข้าพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้จัดตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความเห็นหาแนวทาง การดำเนินคดีกับ เน็ตไอดอลสายเซ็กซี่คนดัง ซึ่งเป็นสาวข้ามเพศ หลังนำบัตรประชาชนแล้วก็ข้อมูลส่วนตัว ไปแสวงหาผลประโยชน์ เชิญเชิญชวนเล่นพนันออนไลน์ โฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จนตนเองถูกออกหมายเรียกจากหลายหน่วยงาน

น.ส.กนกญาดา กล่าวว่า ตนรู้จักกับเน็ตไอดอลรายนี้ ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง แล้วก็เป็นเพื่อนรุ่น พี่ในโรงเรียน แล้วก็ต่อมาเขา ต้องการใช้ชื่อ ที่เป็นชื่อผู้หญิง แล้วก็มีเอกสารใช้ยืนยัน จึงขอยืมบัตรประจำตัวประชาชน ดู ก่อนที่จะใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายบัตรประชาชนไว้

ล่าสุด น้องคะแนน เน็ตไอดอลได้ออกมา ยอมรับ เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าได้ ทำการยืมบัตรประชาชน ของ น.ส.กนกญาดา จิตรอำพัน ไปใช้จริงพร้อมยอมรับความผิด แล้วด้วยที่ชื่อ กนกญาดา เป็นที่จดจำในวงการแล้วเธอนั้นยังยืนยันว่าได้ทำการเปลี่ยน ชื่อนามสกุล ใหม่เป็น กนกญาดา จิตอัมพล เป็นที่เรียบร้อย

แจ้งจับ “คะแนนเน็ตไอดอลสุดเซ็กซี่” สวมรอยใช้ชื่อ-สกุล รับงานเว็บพนัน ที่แท้เป็นสาวสอง

เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา น.ส.กนกญาดา อายุ 24 ปี พร้อมครอบครัวเดินทางเข้าพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้จัดตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความเห็นหาแนวทางการดำเนินคดีกับ เน็ตไอดอลสายเซ็กซี่คนดัง ซึ่งเป็นสาวสองหลังนำ บัตรประชาชนแล้วก็ข้อมูลส่วนตัว ไปแสวงหาผลประโยชน์ เชิญเชิญชวนเล่นพนันออนไลน์ โฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จนตนเองถูกออกหมายเรียกจากหลายหน่วยงาน

น.ส.กนกญาดา กล่าวว่า ตนรู้จักกับเน็ตไอดอลรายนี้ ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง แล้วก็เป็นเพื่อนรุ่นพี่ในโรงเรียน แล้วก็ต่อมาเขาต้องการใช้ชื่อที่เป็นชื่อผู้หญิง แล้วก็มีเอกสารใช้ยืนยัน จึงขอยืมบัตรประจำตัวประชาชนดู ก่อนที่จะใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายบัตรประชาชนไว้

หลังจากจบการศึกษา ก็ไม่ได้ติดต่อกัน กระทั่งเดือน พฤษภาคม58 เขาทักมา บอกอยู่โรงพยาบาลแล้วก็ขอให้ถ่ายบัตรใหม่ ของเก่า ทำหาย แต่ตอนนั้นตน ไม่ได้ให้ไป จนปี 2563 ได้รับหมายเรียก ให้ไปพบ ตำรวจกองปราบ เนื่องมาจากมีชื่อไปโฆษณาเชิญเชิญชวนให้เล่นการพนัน ให้ไปชี้แจ้งว่าเป็นคนเดียวกัน หรือไม่ ตอนนั้นก็คิดว่า คงจะไม่มีอะไรแล้ว

ต่อมาได้มีเอกสาร จากหน่วยงานต่าง ๆ ส่งมาให้ไปอธิบายตลอดมา ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 เดือนสิงหาคม 2565 ได้รับหนังสือจากที่ทำการคณะกรรมควบคุม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องมาจาก พี่เขาได้ถ่ายรูปโฆษณา คู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยใช้ชื่อพวกเรา รวมทั้งอีกหลายครั้ง ที่ผ่านมาเคยได้เห็นมีการเปลี่ยน ชื่อเฟซบุ๊ก เป็นชื่อใหม่ หลาย ๆ ชื่อ หลักเกิดเรื่องก็พยายามติดต่อ กลับไปแต่ก็ติดต่อไม่ได้ ถูกบล็อกทุกช่องทาง แต่นี้ต่อไป จะเดินทางเข้า แจ้งความดำเนินคดีกับ เขาเพราะเหตุว่าทำให้พวกเรา ลำบาก แล้วก็เป็นห่วงเรื่องอนาคตถ้าต้องไปทำงานที่ ไหนแล้วมีชื่อตนเองกระทำผิดต่าง ๆ ต่อมาทางเพจสายไหม ได้พาผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดี กับเน็ตไอดอลมีชื่อเสียงรายนี้ที่ สน.สายไหม

ภายหลังที่ปล่อยให้บรรดาชาวเน็ตต้องสงสัยกันอยู่นาน ในที่สุด แมท ภีรนีย์ คงไทย นางเอกซุปตาร์ขวัญใจแฟนละคร ก็ได้ออกมาเปิดใจเคลียร์ประเด็นร้อน เป็นครั้งแรก ถึงสถานะความสัมพันธ์กับไฮโซหนุ่ม สงกรานต์ เตชะณรงค์ ที่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีภาพหวานๆ ปรากฎให้เห็น แถมก่อนหน้าที่ผ่านมาบนอินสตาแกรมสตอรี่ของเจ้าตัว ก็ยังได้มีการโพสต์ข้อความชวนให้รู้สึก เอ๊ะ! ด้วยเบาๆ

ซึ่งทั้งหมดนี้ แมท ภีรนีย์ ได้อธิบายโดยละเอียด

พร้อมอัปเดตสเตตัสความรัก ระหว่างเธอ รวมทั้ง สงกรานต์ ให้เราฟังว่า…

“ต้องเกริ่นก่อนว่า (หัวเราะ) เหมือนหาเรื่องให้ตนเอง คือ…ตัวหนังสือที่เห็นนะคะ ต้องแยกเป็น 2 อัน ต้องแยกเป็น 2 ก้อน เอ่อ…มันเหมือนกับในเวลาที่พบคลิป พบเพลง พบโควท หรือ พบอะไร ที่มันตรงใจ รวมทั้ง เคยประสบพบเจอมา ในอดีต

แมท ก็ชอบหยิบขึ้นมาแชร์อยู่แล้ว มันแค่นั้นเอง รวมทั้ง พอมาถึงก้อนที่ 2 ก้อนทำงาน ก็คือปกตินะคะ อันนี้ แมทต้องเกริ่นด้วยเหมือนกันว่า แมท เป็นแม่ค้า แมท ขายสบู่ ขายเจลล้างหน้า แมท ก็จะขายแค่อยู่ในออนไลน์ แมทไม่ได้มีระบบหน้าบ้าน ไม่ได้มีระบบแบบที่แมทต้องดูแลพวก ไฟ น้ำ เครื่อง อุปกรณ์ต่างๆ

รวมทั้ง ทีนี้ พอแมทได้มาพบกับระบบ ก็คือ…นางก็เปิดให้อะไรอย่างนี้ แมทเลยต้องการจะเต็มที่กับมัน ไม่อยากให้ใครมาว่าเราได้ ทำอะไร เราก็อยากทำให้ดี แมทก็เลยแบบจั้มพ์อินไปเลย จนถึงเพื่อนๆ บอกว่า ‘หายไปเลย ไม่รับโทรศัพท์’ รวมทั้ง ประเด็นของสตอรี่ก้อนนี้ ก็คือ

เราแซวตนเอง ‘เอ้ย! แก ฉันไม่รับโทรศัพท์เลยนะ ฉันยุ่งมาก ฉันต้องแก้นู้น ฉันต้องทำนี่ ทำคนเดียวหมดเลยทั้งหมดทุกอย่าง อะไรแบบนี้’ เพื่อนก็เลยแซวแมท บอกว่า ‘ก็ไม่สวยไง ก็เหนื่อยหน่อยนะ’ แค่นั้นเลย แต่บังเอิญแมทลืมไปว่า ตอนเช้า หรือ บ่าย ไม่รู้ แมทไปลงโพสต์อันนั้น มันก็เลยดูต่อเนื่อง”

สรุปแล้วทั้งหมดทั้งมวล ไม่มีใดๆเลย ที่เกี่ยวกับ สงกรานต์ ?

“ไม่เลยค่ะ รวมทั้ง มีคนถามแมทประเด็นนี้เยอะมากเลยนะคะ รับโทรศัพท์ไม่ไหว หูไหม้แล้ว (หัวเราะ)”

คนโยงไปถึงเรื่องที่เราทำบุญ ปฏิบัติธรรม บอกว่า เราไปทำใจ ?

“เรื่องทำบุญ แมททำทุกตอนเช้าอยู่แล้วค่ะ”

สงกรานต์ เขางงไหม อยู่ดีๆก็มีเรื่องนี้โผล่ขึ้นมา ?

“คือ…ก็ยังไม่ได้คุย ด้วยเหตุว่า ต่างคนต่างยุ่ง ยุ่งมากค่ะ”

เขารู้ไหมว่า ประเด็นนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขา ?

“อันนี้ขออนุญาตยังไม่ตอบได้ไหม เหตุเพราะว่า แมทเองก็ยังไม่ได้คุยกับพี่เขาจริงๆ คือ ในตอนนี้แยกกันทำงาน แทบจะไม่ได้เจอกันเลย”

อาจเป็นเพราะ รูปคู่ ไม่ค่อยมีให้เห็น คนก็เลยยิ่งตีความไปเรื่อย ?

“ยังไม่ค่อยมีโอกาสค่ะ อย่างที่บอก เราทำงานกันเยอะ รวมทั้ง ยังไม่ได้ไปพักผ่อนที่ไหนด้วย”

เจอกันลดลง แต่ก็ยังดีกันเหมือนเดิม ?

“เดี๋ยวกลับไปคุยก่อน (หัวเราะ) ยังตอบไม่ได้ คือ แมทเกร็งไปแล้ว ถ้าเกิดตอบไปแล้ว มันใช่หรือเปล่ายังไง แต่แมทคือเหมือนเดิมเลย ถ้าเกิดมีอะไร เดี๋ยวก็จะบอกจริงๆ พี่ๆก็รู้อยู่แล้วว่า แมทไม่เคยโกหก แมทบอกทั้งหมดทุกอย่างจริงๆ”

ยืนยันสักนิดว่า ความรักยังดีเหมือนเดิม ?

“ก็…เดี๋ยวกลับไปคุยก่อน ยังไม่ได้คุยเลย”

ช่วงหยุดยาว จะมีแพลนท่องเที่ยวไหม ?

“ไม่ค่อยมีค่ะ ไม่ค่อยได้ไปไหน แต่ที่เห็นว่าแมทไปต่างจังหวัดบ่อยมาก ไปต่างประเทศบ้าง อันนั้น คือ ไป เหตุเพราะว่า งานทั้งนั้นเลย เขาเชิญชวนไป”

คำตอบของเรา ค่อนข้างจะคาใจ กลัวไหมว่า คนจะไม่เคลียร์ รวมทั้ง ตีความหมายผิด ?

“ค่ะ ดีเลยค่ะ ที่พี่ๆถาม คือ ที่แมทบอกว่า ยังไม่ได้คุย หมายความว่า แมทยังไม่ได้รู้ว่า พี่เขารู้สึกยังไง หรือ อะไรกับข่าวสารนี้ หรือ กับโพสต์นี้ ที่มันดูใหญ่มาก แมทยังไม่ได้ถามความรู้สึกเขา แต่ถ้าเกิดถามความรู้สึกของแมท ก็คือ แมทยังเหมือนเดิมทุกๆอย่างค่ะ”

ทุกวันนี้ ยังพูดคุยกันปกติ ยังโทรศัพท์หา ยังพูดเล่นกันอยู่ ?

“ไม่ค่อยค่ะ ด้วยเหตุว่า ยุ่งกันจริงๆ อย่างตัวพี่เขาเอง ก็มีธุรกิจเกี่ยวกับก่อสร้าง รวมทั้ง ตัวแมทเอง พอแมทมีร้านที่ต้องดูแล รวมทั้ง เขาก็ตั้งใจทำให้ แมทเลยตั้งใจมาก อย่างระยะแรกๆ นางก็จะส่งแชทมาบอกประมาณว่า ‘ตั้งใจทำด้วยนะครับ’ ซึ่งแมทก็คิดว่า แมทไม่อยากอยู่เฉยๆ แมทอยากทำให้เต็มที่ ทำตัวให้เป็นประโยชน์”

คู่เราไม่ได้คู่ที่แบบต้องโทรศัพท์หากันทุกวัน ใช่ไหม ?

“ตอนหลังค่ะ ตอนหลังด้วยความยุ่ง รวมทั้ง อย่างที่บอก คือ แมทไม่ต้องการที่จะอยากปิดว่า แบบ ‘ปกติค่ะ เหมือนเดิมค่ะ’ ทั้งๆที่ เราแบบยุ่งมาก คุยกันน้อยจริงๆ คือ ไม่อยากให้เข้าใจผิด หรือ มีข่าวที่ไปเขียนเอง หรือ ไปคุยกันเอง ด้วยเหตุว่า ท้ายที่สุดแล้วอ่ะค่ะ ผลกระทบมันจะตกมาอยู่แมทคนเดียว ซึ่งถ้าเกิดเป็นแมทคนเดียว แมทก็ยังโอเค แต่แมทจะเสียใจทุกครั้ง ถ้ามันกระทบ ไปถึงคนอื่นๆ”

วันนี้เราก็บอกในส่วนของตัวเองล้วนๆ?

“ใช่ค่ะ แมทก็บอกในส่วนของแมทจริงๆ”

พบสงกรานต์ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ?

“เมื่อวานนี้ พบอยู่ค่ะ พบเดินอยู่ไกลๆ”

ต่างคนต่างทำงานแบบนี้ จะทำให้ความหวานลดน้อยลงไหม ?

“จริงๆ คู่เราไม่ได้สวีทอยู่แล้วมาตั้งแต่ต้น ถ้าเกิดจะกล่าวว่า เป็นคู่รักห้าวๆ ก็ได้ รวมทั้ง วันนี้ก็ดีใจนะคะ ที่ได้ออกมาบอก”

ประวัติ แมท ภีรนีย์ คงไทย

“แมท ภีรนีย์ คงไทย” ชื่อเล่น แมท เกิด 28 เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2532 เป็นดาราหญิงลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ โดยพ่อ เป็นชาวนอร์เวย์ คุณแม่ เป็นคนไทย เดิมใช้สกุล วงศ์ดารา เป็นที่รู้จักจากผลงานการแสดง ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 แมท เกิดที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร สำเร็จการศึกษาระดับอนุบาล-มัธยมต้น ที่โรงเรียนวาสุเทวี

ระดับมัธยมปลาย ที่โรงเรียนสารสาสน์เอกตรา สายศิลป์-ดนตรี รวมทั้ง จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาการละคร นอกจากนี้ เธอยังสามารถเล่นกีตาร์ รวมทั้ง ไวโอลินได้ ส่วนงานอดิเรกอันอื่น เธอชอบการวาดภาพ รวมทั้ง ชื่นชอบสะสมแสตมป์ รวมทั้ง หนังสือการ์ตูน

แมท ภีรนีย์ ก้าวเข้าวงการบันเทิง ตั้งแต่อายุ 13 ปี โดยคำชักชวนของโมเดลลิ่ง ที่ห้างแห่งหนึ่ง รวมทั้ง มีผลงานสร้างชื่อเสียง กับผลงานโฆษณาครีมอาบน้ำสบู่ลักส์ คู่กับ “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” ต่อมาทางช่อง 3 มองเห็นแวว จึงให้โอกาสเธอ เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพาวเวอร์ทรี รุ่น 2 แมทเริ่มงานแสดงละครจากบทสมทบ ละครเรื่อง เรือนนารีสีชมพู

ต่อมา จึงได้รับบทนำในละคร มณีดิน รวมทั้ง ชมพู่แก้มแหม่ม ละครในสังกัด เมกเกอร์ เจ ของ จริยา แอนโฟเน่ แมท เป็นหนึ่งใน “แก๊งเฟอร์บี้” ที่มีสมาชิกเป็นนางเอกช่อง 3 ทั้งหมด 5 ได้แก่ แมท ภีรนีย์, แต้ว ณฐพร ,เต้ย จรินทร์พร , มิว นิษฐา รวมทั้ง มิ้นต์ ชาลิดา ซึ่งเป็นนางเอกตัวท็อปของช่อง 3 ทั้งสิ้น ถ้ามีเวลาว่างก็จะได้มีโอกาสเที่ยวพร้อมแก๊งเสมอ

เบื้องหลังการเดินทาง ที่ไม่ได้สวยงามทุกคราว “มิ้นท์ I Roam Alone” เล่าอุทาหรณ์ โดนไกด์ทิ้ง-ลวนลาม ขณะไปถ่ายคลิป ที่เนปาล บอกนี่ไม่ใช่หนแรก

วันที่ 1 เดือนธันวาคม 2565 มีชาวเน็ตจำนวนไม่ใช่น้อย เข้าไปให้กำลังใจ “มิ้นท์” มณฑล กสานติกุล เจ้าของเฟซบุ๊กเพจ “I Roam Alone” หลังจากมิ้นท์ ได้แชร์ประสบการณ์เบื้องหลัง การเดินทางที่ไม่ได้สวยงาม ที่เนปาล เมื่อมิ้นท์ รวมทั้งเพื่อนร่วมทริป ถูกไกด์ทิ้ง รวมทั้งพยายามลวนลาม

โดยมิ้นท์ เขียนเล่าเรื่องราวทั้งหมดว่า “เมื่อโดนไกด์เนปาลทิ้ง และโดนลวนลาม นักเดินทางผู้หญิง อยากให้อ่านนะคะ ความตั้งใจในการเล่าเบื้องหลัง การเดินทางครั้งนี้ เพราะเหตุว่าการเดินทาง ก็เหมือนการใช้ชีวิตแต่ละวัน ที่มีทั้งเรื่องดี ๆ และก็มีเรื่องมีราวไม่ค่อยดีด้วย บางวันเราเจอคนน่ารัก ได้ยิ้มทั้งวัน

แต่ว่าในวันเดียวกัน ก็อาจจะโดนหลอก เดินหลงทาง เจอคนแย่ ๆ จนต้องร้องไห้ เพราะเหตุว่าการเดินทาง ก็ไม่ได้สวยหรูสำเร็จ ทุกหน เหมือนชีวิตที่ไม่ได้สวยงาม ทุก ๆ วัน เลยอยากมาแบ่งปันทุก ๆ ด้านนะ

มิ้นท์ I Roam Alone เล่าการไปถ่ายล่าผึ้งเนปาลครั้งนี้

ไม่มีอะไรได้ตามแผนสักอย่าง การสื่อสารกับไกด์หลักพังพินาศ จนจะต้องยืนโบกรถ ไปเรื่อย ๆ เกือบจะไม่ได้กลับบ้านพัก แล้วมารู้ทีหลัง ด้วยว่า นักล่าผึ้งไม่ได้เงินจากไกด์ เราสักบาท ส่วนไกด์ท้องถิ่น ที่ไกด์หลักเอาพวกเรามาทิ้งเอาไว้ ก็คอยจ้องจะโดนตัว แบบไม่เหมาะสม จนมิ้นท์กับเพชร จะต้องคอยดุสลับเดินหนีตลอด สุดท้ายพวกเรา ตัดสินใจยอมเรียก เฮลิคอปเตอร์ พากลับกาฐมาณฑุ เพราะว่ารู้สึกไม่ปลอดภัย

สำหรับนักเดินทางผู้หญิง การถูกลวนลาม เป็นเรื่องที่น่ากลัว รวมทั้งนี่ไม่ใช่หนแรก ที่เกิดเรื่องนี้ขึ้นที่เนปาล แต่ว่าเป็นครั้งที่ 2 แล้ว โดยครั้งแรก ทำให้รู้สึกแย่มาก โทษตัวเอง จนทำให้กลัว การเดินทางไปพักนึงเลย ในขณะนั้นผู้ที่ทำเป็นไกด์ชาวเชอร์ปา อีกเหมือนกัน จนอดคิดไม่ได้ว่า นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้น บ่อย ๆ แล้วเคยมีใคร โดนแบบนี้อีกบ้างหรือไม่

ครั้งแรกเดินทาง ไปเนปาลเมื่อปี 2015 ในขณะนั้นตั้งใจไปเดินขึ้นยอด Lobuche ยอด 6,000 เมตรรวมทั้งเดินต่อไปที่ Everest Basecamp การเดินทางครั้งนี้ ไม่ได้ไปคนเดียว แต่ว่าไปกับกลุ่มสิงคโปร์ ซึ่งหัวหน้าทีม เป็นผู้ที่เรารู้จัก รวมทั้งเชื่อใจมาก เขาปีนเขาที่เนปาล มาหลายสิบปีและกำลัง พยายามขึ้นยอด 8,000 ทั้ง 14 ยอดให้สำเร็จ

การเดินทางเริ่มต้นดีมาก เจ้าของบริษัทปีนเขา ที่เนปาลที่หัวหน้าทีม ใช้มาหลายปีให้พวกเรา นั่งเฮลิคอปเตอร์เข้าเมือง Lukla แทนนั่งเครื่องบิน ซึ่งน่าตื่นเต้นมาก ๆ

ภายหลังอยู่ที่เมืองลุกลา เพื่อปรับร่างกายแป๊บนึง พวกเราก็เริ่มต้น เดินเพื่อไปที่ Everest Basecamp แต่ว่าใครจะไปรู้ หลังจากเดินไปได้ ไม่ถึงครึ่งทาง แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ที่เนปาลก็เกิดขึ้น ทุกอย่างชุลมุนไปหมด อินเทอร์เน็ตถูกตัด โทรศัพท์ที่ใช้ได้ มีเพียงโทรศัพท์ดาวเทียม ของหัวหน้าทีม ในขณะนั้นจำไม่ได้ว่า เพราะอะไร แต่ว่าหัวหน้าทีม ตัดสินใจเดินหน้าไปต่อไป ที่ EBC เพื่อดูว่า จะยังพอปีน ยอด 8,000 ได้ไหม แทนที่จะเดินกลับ ทุกคนก็รีบเดินไปกับเขา จนเราที่ร่างกาย อาจจะยังไม่พร้อม ได้รับบาดเจ็บหมอนรองกระดูก ปลิ้นทับเส้นประสาท จนขาชาไป 1 ข้าง แต่ว่าถึงจะเป็นอย่างนั้น ก็ยังฝืนเดินต่อ อีกหลายวัน เพราะเหตุว่ามัน ไม่มีทางเลือกอื่น

เสียงเฮลิคอปเตอร์บิน ผ่านไปผ่านมาตลอดระยะเวลา เพื่อขนย้าย

คนที่บาดเจ็บ ที่ Everest Basecamp หัวหน้าทีม ก็พยายาม เรียกเฮลิคอปเตอร์กลับเมือง Lukla เช่นเดียวกันแต่ว่าก็ไม่ได้ เพราะเหตุว่าแม้เฮลิคอปเตอร์ที่ว่า มีมากที่เนปาล แต่ว่าก็ไม่ได้เยอะ พอสำหรับวิกฤต ที่ใหญ่ขนาดนี้ พวกเราเลยจำต้องเดินกัน กลับลงมา

วันนึงที่ ที่พักที่อยู่ระหว่างทางเดินลง กลับไปที่เมือง Lukla หัวหน้าทีมก็พูดว่า ไกด์เจ้าของบริษัท หาเฮลิคอปเตอร์ได้แล้ว จะส่งเฮลิคอปเตอร์มารับ แต่ว่าเฮลิคอปเตอร์ มีพื้นที่ว่างเพียงที่เดียว เขาพูดว่าให้เธอ ไปกับเขาเพราะเหตุว่าเธอบาดเจ็บ ส่วนพวกฉันจะเดินลงไป เจอกับเธอที่เมือง Lukla จะได้กลับกาฐมาณฑุด้วยกัน

ในขณะนั้นตัวเองดีใจ รวมทั้งโล่งใจมาก ๆ เพราะเหตุว่าปวดหลัง จนทนแทบจะไม่ไหว ขาก็ไม่มีแรงแล้ว ใครจะไปรู้ว่า นี่จะเป็นจุดเริ่มต้น ของฝันร้าย ย้อนกลับไปหลังจากเรื่องที่เกิดขึ้น เหมือนกับเขาพยายาม แยกเราออกมาจากกลุ่มมากกว่า…

เมื่อเฮลิคอปเตอร์จอด ไกด์คนนี้ก็พาเรา เข้าที่พักตามปกติ แต่ว่าที่ผิดปกติคือ เขาจะคอยมาอยู่ใกล้ ๆ คอยพยายาม โดนตัวเราตลอด เวลาที่นั่งลง เขาจะเดินมา นั่งใกล้ ๆ มาขอนวดให้ จับบ่าจับขาจนเราจะต้องปฏิเสธ เป็นพัลวัน แต่ว่าที่น่ากลัวที่สุด คือ เขาพูดว่า “สองสามคืนนี้ขอไปนอนที่ห้องได้ไหม ที่พักมันเต็มหมดเลย ขอไปนอนด้วยนะ” พอเราปฏิเสธ เขาก็พูดหัวเราะ ๆ พูดว่า “เดี๋ยวเข้าไปเองได้”

หลังจากวันแรกที่ไปถึง ทุกคืนก็ต้องเอาเก้าอี้ มาวางดันประตู แล้วเอากุญแจ เสียบเข้าไปในล็อ เพราะเหตุว่าเคยอ่านเจอว่า จะทำให้อีกผู้ที่มีกุญแจไข เข้ามาไม่ได้ ส่วนกลางวันก็จะนั่งอยู่นอก ที่พักเพื่อหลบเขา จะปวดขาปวดหลัง ก็จะต้องอยู่ข้างนอก เพราะเหตุว่าเจอทุกครั้งก็จะ โดนจับตัวเสมอ

ระยะเวลาหลายวันนั้น เครียดมาก เพราะเหตุว่ามีความรู้สึกว่า ไม่มีทางสู้อะไรได้เลย ขาก็บาดเจ็บ เรื่องราวหลัง แผ่นดินไหว ก็ดูเหมือนแย่ลงเรื่อย ๆ ทุก ๆ วันรอแต่ว่า ทีมจะมาถึงเมืองเมื่อใด แต่ว่าทีมก็ไม่มาสักที จนสุดท้ายไกด์คนนี้ เดินมาบอกว่า “มีเฮลิคอปเตอร์แล้ว เดี๋ยวเราลงไปพร้อมทีมจีน”

ความรู้สึกในขณะนั้นคำว่า โล่งใจยังน้อยไป มันเหมือนยกภูเขา ออกจากตัวไปเลย เพราะเหตุว่ามีความคิดว่า อย่างน้อยถึงกาฐมาณฑุ เราก็จะปลอดภัย

ตลอดระยะเวลาเกือบจะ 1 ชั่วโมง บนเฮลิคอปเตอร์ ไกด์คนนี้ มานั่งตัวติดอยู่ที่เรา รวมทั้งพยายามโอบไหล่ ไปตลอดทาง เขามากระซิบใกล้ ๆ ว่า “ฉันมีลูกมีเมียแล้วนะ ที่กาฐมาณฑุคงจะ อยู่กับเธอมากไม่ได้ เอางี้ไหม เดี๋ยวไว้เราไปดูไบกัน เดี๋ยวฉันพาเธอไปเที่ยวไปโดดร่มกัน” ในใจในขณะนั้นนึกอย่างเดียวว่า ขอให้ถึงไว ๆ เพราะเหตุว่ามันน่าอึดอัด รวมทั้งน่าขยะแขยงมาก

ที่กาฐมาณฑุเขาเป็น คนจัดการที่พัก ซึ่งอยู่นอกเมืองไปหน่อย เพื่อรอทีม ที่กำลังจะตามมา อีกวันหรือสองวัน ตอนเขายื่นกุญแจให้ เขาก็ทำเหมือนเดิม คือ

“เธอนอนห้องอะไรนะ”
“ไม่บอก”
“ไม่เป็นไรเพราะฉันรู้เบอร์ห้องเธอ”

ทุกคืนที่นั่น ก็เลยเป็นเหมือนเดิม คือ ต้องหาอะไรมาขวางประตูไว้ แต่ยังดีที่ไม่ต้องเจอกับเขาบ่อย ๆ

ถามว่าเพราะอะไร ไม่ไปหาที่พักเอง ถ้าหากใคร อ่านข่าวแผ่นดินไหว ที่เนปาลในขณะนั้น จะรู้เลยว่า เมืองทั่วเมืองราบ เป็นหน้ากลอง พื้นถนนพัง เสาไฟฟ้าล้มระเนระนาด รวมทั้งแผ่นดินไหวย่อย ๆ เกิดขึ้นตลอด

โรงแรมที่ปลอดภัย มีไม่มากและ สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเรา ยิ่งไม่มีทางรู้ ได้เลยว่า ที่ไหนจะไม่มีอันตราย ที่ทำได้ในขณะนั้น คือ รอไฟล์ทกลับจังหวัดกรุงเทพ

ที่แย่กว่านั้น คือเมื่อทีมมา ถึงแล้ว เราแจ้งหัวหน้าทีม เขากลับหัวเราะแล้วพูดว่า ‘ดีแล้วนะ ได้นั่งเฮลิคอปเตอร์ฟรีดีจะตาย’ พอได้ยินเขา พูดแบบนั้น ตัวเองก็ยิ่ง สับสนว่า นี่เป็นสิ่งที่ยอมรับ ได้ที่นี่รึเปล่า

3-4 วัน ที่อยู่ที่เนปาล ครั้งใดก็ตามที่ทีม จะต้องเจอกับไกด์คนนี้ เราก็จะต้องคอยเดินหลบ เพราะเหตุว่าเขาจะ ทำเหมือนเดิมอยู่ตลอด เพียงสบตา เรายังไม่กล้า

จนเมื่อเดือนที่ผ่านมา อ่านเจอข่าวนึงเกี่ยวกับ Everest พอเห็นรูปเขา กับลูกชายที่ลงข่าวดัง ในวงการปีนเขา ตัวเองก็ยังรู้สึก ชาไปหมด เขาคือเหตุผล ที่ทำให้ไม่กล้ากลับไป ที่เนปาลมาหลายปี

นี่เป็นเหตุผลว่า เพราะอะไรการมาเนปาลครั้งนี้ ถึงตัดสินใจใช้ไกด์ ที่เพื่อนเชื่อใจ และไม่กล้าใช้ไกด์ คนไหนก็ได้ แต่ว่าก็เป็นอีกครั้ง ที่จะต้องเจอปัญหา ยังโชคดีที่สถานการณ์ เปลี่ยนทำให้พวกเรา ไม่ต้องอดทนรวมทั้งกล้าจะสู้กลับ

ถ้าถามว่า ทำไมไม่แจ้งความ ทำไมไม่เล่าเรื่อง เหล่านี้ก่อนหน้านี้ จริง ๆ เคยพูดเรื่องนี้บ้าง แต่ก็เล่าแค่นิดหน่อย เพราะกลัวกลัวคำพูดที่ว่า “แล้วไปทำไม?” “อยากเดินทางคนเดียวก็แบบนี้…” กลัวโดนบอกว่า ที่เจอแบบนี้ เป็นเพราะเราหาเรื่องเอง…

แต่ว่าที่ตัดสินใจ เล่าเพราะเหตุว่านี่เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่เกิดขึ้น ที่เนปาล และทั้ง 2 ครั้ง ก็ไม่ได้เดินทางคนเดียวด้วย ที่อยากแบ่งปัน เรื่องนี้เพราะเหตุว่า อาจจะมีหลาย ๆ คน ที่เคยเจอเรื่องเหล่านี้เช่นกัน หรือถ้าหากต่อไป

จะต้องเจอกับคนเหล่านี้ อยากพูดว่าไม่ต้องมัวโทษตัวเอง เพราะเหตุว่าการล่วงละเมิดทางเพศ ไม่ใช่พฤติกรรมที่ยอมรับได้ ไม่ว่าจะกับใคร ที่ใด เมื่อใด เราจะอยู่บ้าน จะเดินทางคนเดียว หรือจะเดินทาง เป็นกลุ่ม ไม่ว่าจะที่ใด อย่างไรการล่วงละเมิดทางเพศ ก็ไม่ควรเกิดขึ้นทั้งนั้น

ศึก บอลโลก 2022 ที่กาตาร์ทำหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจัดแจงแข่งขันเดินหน้าแข่งขันไปทั้งสิ้นแล้ว 32 นัด ซึ่งจัดว่าก้าวมาถึงครึ่งทางของจำนวน แมตซ์ การแข่งขันชิงชัยที่ทำการแข่งขันทั้งหมด โดยใน 32 เกมที่ผ่านมามี 5 เกมที่ทำสถิติแฟนบอลสูงสุดของ ทัวร์นาเมนต์นี้แล้วก็ที่สำคัญมี 2 เกมที่กลายเป็นสถิติสนามแข่งขันที่กาตาร์เป็นเจ้าภาพแฟนบอลเข้าไปเต็มความจุ

5 เกม ที่มีผู้ชมสูงสุดฟุตบอลโลก 2022(32นัด)

วันที่ / เกมการแข่งขันชิงชัย / ผู้ชมในสนาม สนาม/ความจุ

26 พ.ย.65

อาร์เจนติน่า 2-0 ประเทศเม็กซิโก
88,966 คน
ลูเซียล สเดี้ยม(ความจุ 88,966)
*** สถิติสนาม

28 พ.ย.65

ประเทศโปรตุเกส 2-0 อุรุกวัย
88,668 คน
ลูเซียล สเดี้ยม(ความจุ 88,966)

24 พ.ย.65

บราซิล 2-0 เซอร์เบีย
88,103 คน
ลูเซียล สเดี้ยม(ความจุ 88,966)

22 พ.ย.65

อาร์เจนติน่า 1-2 ซาอุดิอาระเบีย
88,012 คน
ลูเซียล สเดี้ยม(ความจุ 88,966)

27 พ.ย.65

ประเทศสเปน 1-1 เยอรมัน
68,895 คน
อัลบายัต สเตเดี้ยม(ความจุ 68,895)

เรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับความจุสนามแข่งขัน บอลโลก คราวนี้ หลังผ่าน 32 เกม

*** สถิติสนาม

ชื่อสนาม ความจุ/ที่นั่ง แฟนบอลเข้าสนามรวม/คน

ลูเซียล สเดี้ยม/88,966/353,749คน

อัลบายัต สเตเดี้ยม/68,895/264,137คน

คาลิฟา สเตเดี้ยม/45,857/177,159คน

อามัด บิน อาลี สเตเดี้ยม/45,032/166,204คน

เอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดี้ยม/44,667/172,830คน

อัล ธู มาม่า สเตเดี้ยม/44,400/167,269อ

อัล จานอบ/44,325/161,576คน

974 สเตเดียม/44,089/162,540คน

รวม 1,625,464(ค่าเฉลี่ย 50,795.75)

ที่สุดตลอดกาลจำนวนแฟนดูฟุตบอลโลกในสนาม

ยอดผู้ชมรวมสูงสุดตลอดกาล 1994(สหรัฐฯ) 3,587,538(52เกม)

ค่าเฉลี่ยผู้ชมสูงสุดต่อเกมตลอดกาล 1994(สหรัฐฯ) 68,991

ยอดผู้ชมเกมที่มีแฟนบอลสูงสุดตลอดกาล 1950(บราซิล) 173,850 บราซิล 1-2 อุรุวัย มาราคาน่า สเตเดี้ยม

สูงสุด 3 คน ตัดเกรดลำแข้ง ทีมชาติอังกฤษ เกมทุบ เวลส์ ซิวแชมป์กลุ่มบี บอลโลก 2022

ฟิล โฟเดน 8 คะแนน ทำเกมรุกทางฝั่งซ้ายได้อย่างดุดัน เลี้ยงจี้ เข้าใส่คู่ต่อสู้ ก่อนยิงให้ทีมหนีเป็น 2-0

มาร์คัส แรชฟอร์ด 8 คะแนน ได้โอกาสซัด ตั้งแต่ครึ่งแรกแต่ว่าติดเซฟ ก่อนที่จะมาเฉิดฉายในช่วงหลัง ด้วยวิธีการทำ 2 ประตูที่ยอดเยี่ยม เริ่มจากฟรีคิกสุดเด็ดขาด แล้วก็การจบสกอร์แบบสุดคม

แฮร์รี แม็คไกวร์ 8 คะแนน เป็นส่วนสำคัญในเกมรับ เล่นด้วยความเชื่อมั่น ไม่มีข้อผิดพลาดเลย

คะแนนผู้อื่นมีดังนี้

จอร์แดน พิคฟอร์ด 7, ไคล์ วอลเกอร์ 7, จอห์น สโตนส์ 7, ลุค ชอว์ 7, ดีแคลน ไรซ์ 7, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน 7, จูด เบลลิงแฮม 7, แฮร์รี เคน 7 (1 แอสซิสต์)

สำรองลงสู่สนาม

เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ 6, คัลลัม วิลสัน 7, คัลวิน ฟิลลิปส์ 7 (1 แอสซิสต์), คีแรน ทริปเปียร์ 6, แจ็ค กรีลิช 6

ลำแข้งรูปหล่อเกาหลีใต้ ทำ 2 สถิติสั่นสะเทือนฟุตบอลเอเชีย หลังจากกระแทก 2 ประตูใน บอลโลก 2022

ลำแข้งรูปหล่อของทีมชาติ เกาหลีใต้ ทำ 2 สถิติจากการกระแทก 2 ประตูในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ แล้วก็ 2 สถิตินี้สั่นสะเทือนไปทั่วเอเชีย

วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน 2565 ควันหลงหลังจากที่ ทีมชาติเกาหลีใต้ พลิกแพ้ให้กับ ทีมชาติกานา ไปด้วยสกอร์ 2-3 ในรอบแบ่งกลุ่มของศึกฟุตบอลโลก 2022 เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา

เกมนี้ โช กยู ซอง ศูนย์หน้าหมายเลข 9 ของทีมชาติเกาหลีใต้ กระแทก 2 ประตู ช่วยทำให้ เกาหลีใต้จากที่ตามหลัง 0-2 มาเสมอ 2-2 แม้ว่าจะแพ้ในเกมนี้แต่ว่า โช กยู ซอง ก็มีสถิติกลับบ้านไปฝากแฟนบอล “โสมขาว” ทุกคนแล้ว

โดย 2 สถิติดังที่กล่าวถึงมาแล้ว สถิติแรก เขากลายเป็นคนเกาหลีใต้คนแรกที่ทำเป็นมากกว่า 1 ประตูในฟุตบอลโลก ยิ่งไปกว่านั้นเขากลายเป็นคนสายโลหิตเอเชียคนแรก ที่ทำแต้มด้วยการโหม่งถึง 2 ลูกในฟุตบอลโลก ซึ่งนับได้ว่าแม้ว่าจะแพ้แต่ว่ายังสามารถที่จะประกาศศักดา ให้ชาวโลกได้รู้จักเขาแล้ว

เกาหลีใต้ ช่วงนี้อาการสาหัส เต็มที่ จากการเสมอ 1 แพ้ 1 มี 1 คะแนนรั้งอันดับ 3 ของกลุ่ม H แล้วก็อยากได้ชัยในเกมสุดท้ายที่จะพบกับ ประเทศโปรตุเกส ในวันที่ 2 เดือนธันวาคม นี้

คิวต์ยังกับบอยแบนด์!! โชคยูซอง-ซนฮึงมิน-โชยูมิน นักฟุตบอลหล่อเกาหลีใต้ในศึกบอลโลก

เชิญชวนมาติดตามขุมสมบัติแห่งวิชวลที่พาให้ผู้หญิงทั่วทั้งโลกทุ่มเทใจเชียร์ทีมชาติเกาหลีใต้ ชุดลุยศึกฟุตบอลโลกที่กาตาร์ ในปีนี้!!

เกาหลีใต้ลงเตะนัดแรกฟุตบอลโลก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอช เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ก็แจ้งกำเนิดให้กับ “โชคยูซอง” (Cho Gue Sung) ดาวยิงหมายเลข 9 ผู้ครอบครองลุคหล่อตี๋ ความสูง 189 ซม. วัย 24 ปี ที่เด่นสะดุดตาได้ถึงแม้ลงสู่สนามเพียงแค่ 20 นาทีในที่สุด เดี๋ยวนี้ค้าลำแข้งอยู่ในเค ลีกกับทีม Jeonbuk Hyundai Motors

ไหน ๆคืนนี้ เกาหลีใต้จะลงเตะนัดที่ 2 กลุ่มเอช กับ “กาน่า” ก็เลยขอพาทีเด็ดคนอื่นในทีมมากล่าวถึงกันบ้าง อย่างผู้ที่สาวๆคุ้นตาคุ้นหน้าเป็นอย่างดีหนีไม่พ้น “ซนฮึงมิน” (Son Heung Min) มิดฟิลด์กัปตันทีมที่โด่งดังสุดยอดเพราะปีนี้คว้าตำแหน่งดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกอังกฤษมาครอง

“ซนฮึงมิน” เดี๋ยวนี้ค้าลำแข้งกับสโมสร Tottenham Hotspur ในอังกฤษ อายุ 30 ปี สูง 183 ซม. เขาสวมเสื้อหมายเลข 7 ให้กับทั้งยังสโมสรแล้วก็ทีมชาติ เสน่ห์แล้วก็คาริสม่า สไตล์ตี๋กิมจิที่บรรลุผลสำเร็จสุดยอดของเขาคนนี้ ทำเอาทั้งยังแบรนด์ Burberry แล้วก็ Calvin Klein มารุมจีบให้เป็น Brand Ambassador

กล่าวถึงกองหน้าแล้วก็มิดฟิลด์ไปแล้ว ก็จะต้องมีปราการหลัง เขาคนนั้นเป็น “โชยูมิน” (Cho Yu Min) เซนเตอร์แบ็ค วัย 26 ปี แห่งสโมสร Daejeon Hana Citizen โดย “โชยูมิน” ซึ่งสวมหมายเลข 24 ให้กับทีมชาติ แล้วก็เป็นเจ้าของความสูง 182 ซม. พร้อมลุคตี๋กิมจิยิ้มตาสระอิ อีกหนึ่งคน

ปัจจุบันเขาเป็นที่จับตามากยิ่งขึ้นไปอีก

หลังจากยืนยันสละโสดกับ “โซยอน” (Soyeon) สาวรุ่นพี่อดีต เมนโวคอลของเกิร์ลกลุ่มวง T-ARA ที่อายุห่างจากเขาเกือบ 10 ปี โดยคู่นี้เดิมมีระบุสังสรรค์สมรสกันในเดือนนี้ แต่ว่าเพราะทางฝ่ายชายถูกเรียกติดทีมชาติจึงตัดสินใจจดทะเบียนกันก่อน ส่วนงานสังสรรค์เอาไว้ทีหลัง แล้วก็ปัจจุบันทางฝ่ายหญิงก็ซัพพอร์ตสามีรุ่นน้องเต็มที่โดยมีภาพลัดฟ้ามาให้กำลังใจติดขอบสนามกันเลย ไม่นับรวมที่ผ่านมาเธอนั้นก็มักดูแลเรื่องของกินที่มีประโยชน์ให้กับทางฝ่ายชายโดยตลอด

คนสุดท้ายอ่านแล้วอ่านจะปวดใจไปซักหน่อย แม้กระนั้นนี่เป็น 3 ชายหนุ่มผู้นับว่าเป็นวิชวลของทีมชาติเกาหลีใต้ชุดฝ่าศึกฟุตบอลโลกที่กาตาร์ปีนี้ที่ผู้คนจำนวนมากกล่าวเป็นเสียงเดียวกันเลยว่าคัดคนมาคิวต์ยังกับบอยแบนด์ ส่วนจะสำแดงเดชในฐานะทีม เร้ดเดวิลส์แห่งเอเชียได้เร่าร้อนเพียงใด คืนนี้ เกาหลีใต้ ที่ตลอดมาในนัดแรก จะลงเตะพบ กาน่า เวลา 20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง True4U ช่อง 24

ดารารุ่นใหญ่ อดีตครีเอทีฟแฉ เคยถูก ‘นักแสดงรุ่นใหญ่’ ตบกลางห้าง เผย ‘คนเดียวกันกับที่มีข่าว’ ต้านการใช้ ความรุนแรง ในที่สาธารณะ หนุนผู้ถูกกระทำกล้าปกป้องตัวเอง อย่าปล่อยผ่าน

ดารารุ่นใหญ่ ตบหน้า ดาราหนุ่มรุ่นน้อง ทนายตั้ม เผยเรื่องราว

จากกรณีที่ ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เผยเรื่องราว “ดารารุ่นใหญ่” พาลูกค้า ซึ่ง เป็น “ดาราหนุ่มรุ่นน้อง” ไปเสริมหล่อ ที่ประเทศเกาหลี ก่อนที่จะไม่พอใจที่ชวน ดารารุ่นน้อง ไปกินปูแต่ว่า รุ่นน้อง ไม่ยอมไป พร้อมทั้ง “ตบหน้า” ฉาดใหญ่ กลางห้างดัง

ต่อมา ม้า อรนภา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ดังกล่าว ว่า อย่าใช้คำว่า “ตบ” ไม่มีอะไร จะพูด และไม่ใช่ดารารุ่นใหญ่ เรื่องไม่ได้ใหญ่โต ตามที่วิพากษ์วิจารณ์กัน และได้ปรับความเข้าใจไปแล้ว

ดาราหนุ่มหน้าใหม่ ได้เปิดใจในClubhouse ภายหลังจากนั้น ดาราหนุ่ม หน้าใหม่ ได้เปิดใจในClubhouse ได้เอ่ยถึงในประเด็นที่เกิดขึ้น สั้นๆ ว่า เครียดมาก ข่าวที่ออกไป มีทั้งจริงและไม่จริง ได้ยืนยันว่าไม่มี เรื่องชู้สาวแน่นอน

อดีตครีเอทีฟ เปิดใจ เคยโดน ดารารุ่นใหญ่ ตบหลัง ในกรณี คนในแวดวงบันเทิงไทยใช้ความรุนแรง กับ “คนใกล้ตัว” ยังไม่หมดเท่านี้ ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊ก รายหนึ่ง เผยถึงเหตุการณ์ฝังใจ ที่ผ่านมา 7-8 ปีแล้ว เมื่อครั้ง ทำงานเป็น “ครีเอทีฟ” ถูก “ดารารุ่นใหญ่” ตบไปที่หลังกลางห้าง

เจ้าของเฟซบุ๊กยืนยันว่า ขอสนับสนุน ให้คนกล้าที่ปกป้องตัวเอง และต่อต้าน คนที่ใช้ ความรุนแรง ในที่สาธารณะ เพราะไม่อยากที่จะเห็นใครมีบาดแผลในชีวิตรู้สึกผิดแบบตน

เธอได้ระบุว่า จะเล่าประสบการณ์โดนดาราตบกลางห้างให้ฟัง

ในตอนนั้นทำงาน เป็นครีเอทีฟ บ.อีเวนต์ บ.เราได้รับเลือก ให้จัดงานอีเวนต์ กลางห้างดังแถว ๆ บางนาเพิ่ง เปิดใหม่ได้ ประมาณ 1-2 ปี บ.เราเชิญศิลปินรุ่นใหญ่ท่านนึงมางาน ทีมงาน ประชุม แบ่งงานกัน พี่บอก ให้เราไปดูแล ดาราท่านนึง “เขาเอาใจ ยากหน่อย ฝากด้วยนะแก ทำได้อยู่แล้ว หน้าที่นี่” ประชุมเสร็จมีคนมากระซิบบอกเราว่าจริงๆ ไม่มีใครอยากจะ ทำหน้าที่นี้

เช้าวันงาน เราไปเคลียร์ ที่จอดรถห้าง ที่ดีที่สุด ติดประตูห้าง ติดทางเข้าไป ห้องสแตนด์บาย ศิลปิน ตามธรรมเนียม ก่อนอีเวนต์ เริ่มต้น เราต้องพาศิลปินเข้ามาที่ห้องสแตนด์บาย เพื่อที่จะเปลี่ยนชุด ทัชอัพ บรีฟคิวงานใดๆ เราได้ที่จอดเราตรงไหนก็โทรไปบอก ขอป้ายทะเบียน พอเขามาปุ๊บ เราก็จะพาเขาไปนั่งในห้องพักศิลปิน

แต่ศิลปินนี้เขาปฏิเสธไปห้องสแตนด์บาย ขอไปหน้างานเลย ทั้งๆที่ยังไม่ถึงเวลางานเริ่ม อีกตั้ง 2 ชั่วโมง เราขอปรึกษาทีม ทุกคนบอกให้พาเขามาได้ เราก็เดินนำเขาไปที่จัดงาน คือเราต้องเดินนำเขา เพราะเรารู้ว่างานจัดตรงไหน

ในระหว่างเดิน ๆ จู่เหมือนมี อะไรมากระแทก หลังดัง พัวะ!!! แรงมาก ดังมาก และเจ็บมาก ๆ หันไปถึงได้รู้ว่าดาราคนนี้ ใช้มือตบหลังเรา แกพูด เสียงดังมาก ทำไมถึงเดินไกลขนาดนี้ เดินไกลมาก คนหันมามองกันหมด แต่เราก็ตั้งสติพาเขาไปที่งาน ซื้อน้ำดื่มให้ที่สตาร์บัค ดูแลเขาจนจบงาน เพื่อนๆ ทีมงานก็ผลัดกันมาช่วยดูแล

แต่จำได้ว่าอายก็อาย เหนื่อยก็เหนื่อย ความรู้สึกก็เสีย ทุกคนบอกว่าเป็นเรื่องปกติ ตอนนั้นเราได้แค่ปลอบตัวเอง พูดกับตัวเองว่าไม่เป็นไรนะ อย่าเก็บมานั่งคิดให้เสียเวลา คิดซะว่าจบงานนี้ไป เรายังมีหลายงานรออยู่

ทุกวันนี้ก็ผ่านมา 7-8 ปี ไม่ได้ทำงานประจำแล้ว ถึงแม้จะผันตัวจากครีเอทีฟเป็นYoutuberแล้วก็ตาม แต่เรามีความรู้สึกผิดกับตัวเองว่าทำไมตอนนั้นเราถึงยอมให้คนอื่นมาทำร้ายร่างกายเราได้ง่ายๆ แบบนั้น และยิ่งเป็นที่สาธารณะด้วย ยิ่งไม่
สมควรเลย

อยากจะบอกทุกคนที่โดนแบบนี้ให้กล้าพูด กล้าปกป้องตัวเอง ตัวเรา ร่างกายเรา เรามีสิทธิที่จะดูแล อย่าปล่อยให้ผ่านไปเฉยๆ ไม่งั้นมันจะมีความรู้สึกแย่กับตัวเองแบบที่เราเป็นนี่แหละ

เธอได้อ่านข่าว ดารารุ่นใหญ่ ตบ ดารารุ่นน้อง

วันนี้ อ่านข่าวที่ ดารารุ่นใหญ่ ตบ ดารารุ่นน้อง แล้วนึกถึง สิ่งที่ตัวเองเจอ แต่ต่างกัน ตรงที่ ดารารุ่นร้อง คนนี้ มีความกล้าที่จะพูด กล้าที่จะบอกทนาย

แต่คนในสังคมไทย บางคนวิจารณ์ว่า ดารารุ่นน้อง อยากดังบ้าง ทำไมต้องทำให้ เป็นเรื่องใหญ่บ้าง มีความสัมพันธ์ กับ นักแสดงรุ่นใหญ่ บ้าง บางคนเข้าข้างคน ที่ทำร้ายร่างกายเขา ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ล่ะ?

ส่วนตัว ก็ขอติดตามข่าว ต่อไป และขอสนับสนุน ให้คนกล้าที่ ปกป้องตัวเอง และต่อต้าน คนที่ใช้ความรุนแรง ในที่สาธารณะ เพราะไม่อยากเห็นใคร มีบาดแผล ในชีวิตรู้สึกผิด แบบเรา ทุกคนมีความเห็นว่า ยังไงบ้าง มีความเห็นต่าง ได้นะคะ รอฟัง รออ่าน และรอความคืบหน้า ของข่าวนี้เช่นกัน

อย่างไรก็ดี ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ก็ตอบความเห็นคนอื่นที่แชร์เรื่องเธอไปว่า “คนเดียวกับที่มีข่าว”