Category ข่าวบันเทิง

She Said รีวิวหนัง

รีวิวหนัง “She Said เสียงเงียบของเธอ” ที่บัดนี้เสียงนั้น จุดประกายกึกก้องไปทั้งโลก

หนังสายรางวัล ก็เริ่มคืบคลานมาเปิดฤดูในเมืองไทย แบบเบา ๆ แล้วเช่นกัน ส่งหนังโฉบเฉียดรางวัลเรื่องแรก ๆ ของปีนี้มาด้วย “She Said เสียงเงียบของเธอ” ที่มาพร้อมด้วยประเด็นทางสังคม สุดอื้อฉาวคาวโลกีย์ ที่แปลงเป็นแรงผลักดัน และการขับเคลื่อนสิทธิสตรีครั้งใหญ่ ระดับโลกในยุคปัจจุบัน แค่เพียงความพยายามกล้า ที่จะเปล่งเสียงออกมา จากเสียงเล็ก ๆ เปลี่ยนมาเป็นเสียงตะโกน ที่กึกก้อง กับเรื่องราว ที่พวกเธออยากจะให้โลกได้รับรู้!

SheSaid เสียงเงียบของเธอ เป็นวีรกรรมของ 2 นักข่าวแห่งสื่อยักษ์ใหญ่ New York Times อย่าง เมแกน ทูเฮย์ กับ โจดี้ คานทอร์ พวกเธอได้ทำเปิดเผย และเปิดตัวการเคลื่อนไหว ของแคมเปญ #MeToo ที่แปลงเป็นการขับเคลื่อนสังคมครั้งยิ่งใหญ่ ในรอบทศวรรษ ด้วยการเปิดเผยความประพฤติ ชั่วล่วงละเมิดทางเพศครั้งประวัติศาสตร์ ที่อื้อฉาวไปทั่ว ทั้งวงการฮอลลิวูด เกี่ยวกับความประพฤติของผู้บริหารระดับสูง จากสตูดิโอหนังมีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง

She Said บัดนี้เสียง

She Said คือถ้าหากว่าคุณเคยถูกใจ จากหนังสายรางวัลชนิด หนังสืบสวนเชิงข่าว

อย่าง “Spotlight คนข่าวคลั่ง” ที่ได้ออสการ์ไป หรือ “The Post เอกสารลับเพนตากอน” ที่เคยสะดุดตาบนเวทีรางวัล คุณก็น่าจะหลงใหล และลื่นไหลไปกับหนังเรื่องนี้ ได้ง่าย ๆ เพราะเหตุว่าโทนของหนัง ก็มาในทิศทางและทำนองเหมือนกัน

คือแปลงเป็นหนังดราม่าสืบสวน ที่เกือบกลายเป็น เชิงสารคดีข่าวไปแล้ว ในระดับหนึ่ง การเล่าเรื่องทำออกมาได้ออกจะ ดูง่ายและย่อยง่าย คนดูสามารถแตะต้อง ประเด็นต่าง ๆ ของหนังได้อย่างเห็นได้ชัด โดยที่ไม่ต้องใช้ความคิดอะไรมาก

นี่คือผลงานกำกับ หนังฮอลลิวูดเรื่องแรกเต็มตัว ของนักแสดงสาวชาวเยอรมัน “มาเรีย ชเรเดอร์” ที่อาจกล่าวได้ว่าฝีมือ ของเธอนั้น ก็ออกจะเอาการอยู่ สามารถชูประเด็นและนำเสนอ หนังออกมาได้ในจังหวะที่ใช้ได้ ผลักดันเล่าออกมาได้ออกจะมีอรรถรสดี เพียงแต่ว่าสเกลของหนังอาจจะค่อนข้างใหญ่เกินไป สำหรับประสบการณ์ ของเธอสักนิดหน่อย ทำให้ยังมีหลาย ๆ ส่วนประกอบที่ยังสัมผัสได้ว่า ไปได้ไม่สุดทาง ทำออกมาได้ยังไม่จัดจ้านพอ และยังเต็มไปด้วยส่วนขาด ๆ เกิน ๆ ปนเปออกมาอยู่มาก

โดยหนังเรื่องนี้ ได้นักเขียนฝีมือดี ชาวอังกฤษ “รีเบคก้า เลนคีวิซ” (จาก Disobedience และ Ida) ที่ถือว่าคลุกคลีและจับเอาประสบการณ์ตรงสำหรับการ ทำงานข่าวเชิงสืบสวนของ เมแกน ทูเฮย์ กับ โจดี้ คานทอร์ มาร้อยเรียงเรื่องราว

หนังอาจจะมีทิศทางการเล่าเรื่อง ที่ออกจะเข้าถึงง่าย และไหลลื่นไปตามกระแสที่ใช้ได้ แต่กระนั้นก็ยังพบว่า มีบางจุดที่ออกจะย้วยเกินจำเป็น ยืดยานโดยใช้เหตุ หากว่าสามารถกระชับ ในจังหวะการเล่าได้ขึงขังได้อีกนิดหน่อย มีความคิดว่าหนังน่าจะตรึงใจได้ยิ่งกว่า

แม้ว่า She Said มาได้วัตถุดิบและประเด็นชั้นเลิศ นำมาปรุงรส แต่ว่าก็แอบเสียดาย อยู่เล็กน้อยที่ว่าประเด็น ที่หนักแน่นและยิ่งใหญ่ที่ทรงอิทธิพลขนาดนี้ กลับทำออกมาได้ในแบบที่ ยังไม่ค่อยทรงพลังสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะอย่างเมื่อนำไป เปรียบเทียบกับหนังเชิงข่าวทั้ง 2 เรื่อง ข้างต้นที่อ้างอิง เข้าไปข้างต้นนั้น

ถือว่าเรื่องนี้ยังออกจะห่างไกลจาก คำว่าเพอร์เฟ็คไปอย่างน่าผิดหวังนิด ๆ เพราะเหตุว่าในท้ายที่สุดหนัง หนังแทบจะไม่ได้สร้างมิติ และลูกเล่น ได้อย่างมีเชิงชั้น เป็นเพียงการเล่าเรื่อง ไปตามสูตรแบบจับวาง ตามไทม์ไลน์ที่ควรจะมีเสน่ห์ ได้มากกว่านี้

She Said กึกก้อง

She Said จุดประกาย

แต่กระนั้นหนังก็ยังโชคดี ที่มีทีมนักแสดงคุณภาพ มาปล่อยของและพ่นไฟ ในหนังเรื่องนี้

ที่ช่วยแบกและประคองหนังเอาไว้ เกือบจะทั้งเรื่อง “แครี่ มัลลิแกน” กับ “โซอี้ คาซาน” เปรียบได้ว่าเป็นคู่หูนางแบบ ของหนังเรื่องอย่างแท้จริง การแสดงที่ลื่นไหน ของพวกเธอ ถือว่าทำออกมาได้ดี ตามมาตรฐาน เพียงแค่น่าเสียดายอยู่บ้าง เพราะเหตุว่าเชื่อว่าพวกเธอ ยังสามารถทำได้ดีมากกว่านี้ หากว่าโครงสร้างของเขา มีความหนักแน่น มากยิ่งขึ้นกว่านี้อีก

“แพทริเซีย คลาร์กสัน”, “อันเดร บรอย์เกอร์” หรือ “เจนนิเฟอร์ เอเล่” นับว่าเป็นทีมนักแสดงสมทบ ที่มาช่วยเติมรสชาติ ให้กับเรื่องนี้ และอย่างน้อย ๆ หนังก็ยังใส่ลูกเล่น ที่น่าสนใจด้วยการเชื้อเชิญ นักแสดงที่เคยกลายเป็นเหยื่อ ในกรณีดังกล่าว มาร่วมแจมรับเชิญในหนังด้วย บางคนจะเป็นตัวเป็นตน หรือบางคนจะมาแค่เพียงเสียง แต่ว่านับว่าเป็นกิมมิก ที่พยายามช่วยยกระดับ ความทรงพลังให้กับ หนังเรื่องนี้ได้ยิ่งขึ้น และเป็นการส่งสาร ที่สตรองยิ่งขึ้น

หนึ่งในลูกเล่น ที่ออกจะน่าสนใจ แม้ว่าจะไม่ใช่อะไร ที่แปลกใหม่เท่าไร นั้นก็ถือจับเอาหลักฐาน จากสถานการณ์จริง มาใช้ประกอบในหนัง โดยเฉพาะอย่างคลิปเสียงต่าง ๆ ของผู้บริหารสตูดิโอหนัง ที่ถูกกล่าวอ้างนั้น ถูกนำมาเปิดใช้ประกอบ ในเรื่องนี้ นับว่าเป็นจุดที่กล้าได้กล้าเสีย ของหนังไม่น้อย เพราะเหตุว่าทำอะไรแบบนี้ก็เสี่ยง ที่จะถูกฟ้องร้องได้เหมือนกัน แต่ว่าเมื่อเจตนาของหนัง อยากที่ตีแผ่สังคมและเปิดเผย ในช่วงหนังสารคดีข่าว การเลือกเทคนิคนี้ มาใช้ก็พอจะสมเหตุสมผลด้วยดี

สรุปว่าโดยภาพรวมแล้วนั้น She Said เสียงเงียบของเธอ ก็ถือเป็นหนังสืบสวนเชิงข่าว ที่พอดูได้อย่างจับใ ถึงหนังจะยังไม่ได้เพอร์เฟ็ค ในทุกทิศทาง มีข้อบกพร่องอยู่เต็มไปหมด โดยเฉพาะอย่างทิศทางการนำเสนอ ของเรื่องที่ไม่ได้หนักแน่นแข็งแรงพอ

ทั้งที่ได้ประเด็น ที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาเล่น แต่ว่าหนังก็ได้ทำหน้าที่ สื่อสารตามเป้าหมายของเรื่องได้อย่างสำเร็จ กับการเป็นกระบอกเสียง ให้กับผู้หญิง ที่กลายเป็นเหยื่อ การล่วงละเมิดทางเพศ ที่ให้พวกเธอได้กล้า ที่จะเปล่งเสียงกันออกมา ไม่ใช่แค่จำนนยอม เพียงแต่การกดขี่ภายใต้อิทธิพล

โดยเหตุนี้ She Said เรื่องนี้ก็เลยเต็มไป ด้วยประโยคและวลีเด็ด ๆ สำหรับการใช้เพียงขับเคลื่อนสังคม เอาไว้มากมาย แต่ว่ามีอยู่ประโยคหนึ่ง ที่ทำให้รู้สึกขยะแขยงและหดหู่ใจ ไปในคราวเดียวที่ได้ยินว่า

” กฎหมายก็เป็นแค่เพียงเครื่องมือที่ใช้ปกป้องผู้ที่ละเมิดให้ยังคงอยู่และไปกระทำกับคนอื่น ๆ ต่อ ” ช่างเป็นท่อนคำที่รู้สึกจุกอก เพราะเหตุว่า นี่มันคือความจริงในสังคม เพราะเหตุว่าท้ายที่สุดแล้ว คนธรรมดา ๆ ที่อำนาจเป็นศูนย์ จะไปสู้อะไรได้ กับผู้ที่เรืองรอง อิทธิพลอยู่เต็มสิบ

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง She Said เสียงเงียบของเธอ

ประเภท: ดราม่า

ผู้กำกับ: มาเรีย ชเรเดอร์

แสดงนำโดย: แครี่ มัลลิแกน, โซอี้ คาซาน

ความยาว: 129 นาที

กำหนดฉายในไทย: 1 ธันวาคม 2022 (ในโรงหนัง)

ครอบครัวกวน ป่วนงานแต่ง รีวิวหนัง

รีวิวหนัง “The People We Hate at the Wedding ครอบครัวกวนป่วนงานแต่ง”

ครอบครัวกวน ป่วนงานแต่ง ว่ากัน ว่า..ครอบครัว กับงานแต่งงาน ชอบนำมาสร้างสรรค์ เรื่องเล่าสุดเกิน จะบรรยายได้หลายเรื่องทีเดียว รวมทั้งนั่นจึงเปลี่ยน มาเป็นสาเหตุของ ภาพยนตร์ตลกปนวิวาห์ที่มีชื่อว่า “The People We Hate at the Wedding ครอบครัวกวนป่วนงานแต่ง” ที่อาจจะเป็นเพียง ภาพยนตร์ตลกครอบครัวฟอร์มเล็ก ๆ แต่เมื่อได้เห็น แคสติ้งผู้แสดงนำ ในหนังเรื่องนี้แล้ว ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า … ละสายตา แล้วก็ความสนใจ ไปไม่ได้เลย

The People We Hate at the Wedding เรื่องราวของ อลิซ กับ พอล ญาติพี่น้อง ที่ยังเจอกับปัญญา ที่ไม่เข้าใจกันและกัน ยืดเยื้อมายาวนานหลายปี พวกเขาดิ้นรน อย่างไม่ค่อยเต็มใจ สักเท่าไหร่ ที่จะไปร่วมงานแต่งงานของ เอลูอิส ลูกพี่ลูกน้อง ต่างพ่อที่กำลัง จะจัดขึ้น ในเมืองเกือบจะ ชนบทของอังกฤษ รวมทั้งพวกเขาก็ต้องไปพบหน้ากับ ดอนน่า แม่แท้ ๆ ของพวกเขา ที่ถือว่าเป็นงานรวมญาติ ที่เต็มไป ด้วยรอยร้าว ในสัมพันธ์

ครอบครัวกวนป่วนงานแต่ง หลายเรื่อง

ครอบครัวกวนป่วนงานแต่ง มีชื่อว่า

ครอบครัวกวน ป่วนงานแต่ง หนังปรับเปลี่ยน มาจากนิยายขายดี ชื่อเดียวกัน ของนักเขียนหนุ่ม “แกรนต์ กินเดอร์”

ผลงานปัจจุบันของ ผู้กำกับหญิง “แคลร์ สแคนลอน” ที่เราคงจะเคยชิน กับเธอ ในหนังรักเฉิ่ม ๆ แต่สนุกดี อย่าง Set It Up เมื่อไม่กี่ปีมานี้ โดยส่วนมากแล้วเธอผู้นี้ ชอบกำกับงานทีวีซีรีส์ อยู่หลาย ๆ เรื่อง รวมทั้งนี่เป็นการ กลับมาทำงานหนังใหญ่อีกครั้ง ที่แน่นอน ว่าเธอทราบจังหวะ รวมทั้งท่าทางในการ ทำอย่างไรให้หนังออกมา ได้สนุก

แต่กลับน่าเสียดายไป สักหน่อยที่นั้น เพราะสุดท้ายแล้วนั้น The People We Hate at the Wedding ก็เป็นเพียงแค่ภาพยนตร์ตลก แกมประเด็น ครอบครัวป่วน ๆ

ที่เป็นพล็อตสำเร็จรูป ที่เราเคยเห็นอะไรแบบ มาจากหนังดัง ๆ หลายเรื่อง ตั้งแต่เมื่อ 10-20 ปีให้หลัง ทำให้หนัง ไม่ค่อยมีอะไร ที่สดใหม่รวมทั้งแปลกใหม่ ที่สร้างเซอร์ไพรส์ ให้กับคนดูสักเท่าไหร่ มาพร้อมกับการเล่าเรื่อง สูตรสำเร็จ ที่จัดมาอย่างเพรียบพร้อม ตั้งแต่เริ่มต้นถึงจบเรื่อง

แม้ว่าหนังจะมีความเด่น เกี่ยวกับการเกลี่ยอัตลักษณ์ รวมทั้งสตอรี่ของแต่ละคาแรกเตอร์ ออกมาได้ค่อนข้างชัดเจน ทั้งยัง 3 ตัวละครหลัก ต่างมีเรื่องมีราวรวมทั้งปัญหา ของพวกเขาอยู่ ต้องรับมือรวมทั้งจัดการ ด้วยตัวของพวกเขาเอง

เพียงแต่ว่าหนังรวมทั้งบทหนัง ยังไม่สามารถขยี้รวมทั้งบ่มออกมา ให้มีพลังรวมทั้งจิตวิญญาณ ได้กว่านี้ ทำให้หลาย ๆ ประเด็น ที่ดูคงจะสำคัญ แต่กลับทำเป็นเพิกเฉย ไปอย่างน่าผิดหวัง เพราะหนังมัว แต่จดจ่อ อยู่กับการใส่ความ ขัดแย้งป่วน ๆ ระหว่างครอบครัวเยอะเกินไป

The People We Hate at the Wedding เป็นหนังที่วางธีม เอาไว้เป็นภาพยนตร์ตลกครอบครัว แบบปั่นป่วนกันด้านใน เป็นหนังที่ค่อนข้าง เคยเป็นสูตรสำเร็จ ในตอนเทศกาลสิ้นปี ของแวดวงฮอลลิวูด เมื่อสักทศวรรษก่อนที่จะ

เราจะได้เห็น หนังโทนนี้ ออกฉายในโรงในทุก ๆ ปี แต่ยุคสมัยผ่านไป หนังแนวนี้ ได้ลดบทบาท เหลือเพียงแค่หนังฉายสตรีมมิ่งแทนแล้ว รวมทั้งน่าผิดหวัง ที่ศักยภาพของหนังแนวนี้ ก็ไม่ได้พัฒนา ขึ้นสักเท่าไหร่เลย

ท่ามกลาง แพ็คเกจสำเร็จต่าง ๆ ที่ใส่เข้ามา ในหนังเรื่องนี้นั้น สิ่งที่ดีเยี่ยมที่สุดของหนังเรื่องนี้ รวมทั้งช่วยรับหน้าที่ แบกเอาไว้อย่างมาก ก็คือทีมนักแสดง ของเรื่อง 3 ดารานำของเรื่องนี้ ทำหน้าที่ของพวกเขา ด้วยความเป็นมือโปร

แม้ว่าบทหนัง จะค่อนข้างเปื่อยยุ่ย แต่พวกเขา ก็พยายามเป็นอย่างยิ่ง ที่จะสามารถช่วยประคอง หนังเรื่องนี้ ด้วยทักษะการแสดง จากเสน่ห์ ของพวกเขาเอง

ครอบครัวกวน ป่วนงานแต่ง ไม่ได้

“คริสเตน เบลล์” กับ “เบน แพลต” ต่างมอบ การแสดงที่ เป็นธรรมชาติเป็นอย่างดี

แม้ว่าบทบาท ที่พวกเขาได้รับนั้น จะค่อนข้างธรรมดา ๆ รวมทั้งให้รสชาติแบบเดิม ๆ ที่ไม่ได้รู้สึกแปลก ในการรับรสเท่านั้น แอบเสียดาย ที่ปมด้อยในใจ คาแรกเตอร์ที่พวกเขา ได้รับแอบน่าดึงดูดอยู่ไม่น้อย แต่หนังกลับไม่ได้ ทำการบ่มเพาะจุดนี้ ได้อย่างดี สักเท่าไหร่ กลายออกมา เป็นความจืดชืดบนพื้นฐาน ของแพ็คเกจสูตรสำเร็จ ไปสักหน่อย

ตอนที่ “แอลลิสัน แจนนีย์” ก็ยังคง มอบการแสดง ที่เป็นตัวเธอ บทนี้ก็ราวกับ สร้างสรรค์ให้มาเพื่อเธอ โดยเฉพาะ แต่บทบาทอะไรอย่างงี้นั้น เราก็เคยเห็นเธอ เล่นเอาไว้มาแล้ว จากผลงาน เรื่องก่อน ๆ จึงไม่ค่อยได้เห็น อะไรที่ทำให้เกิดความรู้สึกเซอร์ไพรส์ เป็นการวนลูป ในบทที่ซ้ำ ๆ ที่ต้องสารภาพว่าเธอเอง ก็ยังรับมือ เอาไว้ได้ดีรวมทั้ง เป็นมือโปรอย่างมาก เพียงแค่ทุกสิ่งค่อนข้าง สัมผัสลงไปแบบผิวเผินเพียงแค่นั้น

ดังนี้ เอาเป็นว่า The People We Hate at the Wedding อาจจะเป็นภาพยนตร์ตลก ครอบครัวที่มากับ ความสำเร็จรูป แบบเดิม ๆ ที่ยังไม่ค่อย ข้างมีอะไรแปลกใหม่ออกมา ให้เห็นสักเท่าไหร่ โชคช่วยที่หนัง ได้ทีมนักแสดงนำ มาช่วยรับหน้าที่ เป็นนางแบก ทั้งเรื่องเอาไว้ ได้อย่างมุ่งมั่น แต่ผลที่ออกมานั้น นี่ก็คือหนังป่วนวันวิวาห์ ในแบบที่ไม่ได้เหนือความคาดหวัง อะไรก็ตามเป็นหนังที่ เปิดดูเล่น ๆ ผ่าน ๆ ไป ที่ยังไม่มีอะไร เป็นมีมรวมทั้งน่าจดจำ อะไรได้สักเท่าไหร่เลย

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง The People We Hate at the Wedding

ประเภท: ตลก

ผู้กำกับ: แคลร์ สแคนลอน

นำแสดงโดย: เบน แพลต, คริสเตน เบล์, แอลลิสัน แจนนีย์, ซินเธีย แอดดัย-โรบินสัน

ความยาว: 99 นาที

กำหนดฉายในไทย: 18 พ.ย. 2022 (ที่ Prime Video)

Black Panther น้องริริ

น้องริริ Ironheart ตัวตึงวาคานด้า จะเป็นอย่างไรต่อไป หลังจบ “Black Panther 2”

Black Panther : Wakanda Forever ไม่ได้เป็นเพียงแค่หนัง ที่อุทิศให้ กับการจาก ไปของแชดวิก โบสแมนเท่านั้น แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ ยังได้เปิดตัว ตัวละครใหม่ ที่เป็นเหมือนผู้สืบทอด ตำนานชุดเกราะเหล็ก สาวน้อยอัจฉริยะ ที่ความหลักแหลมของเธอ ชักนำให้เธอ เข้าสู่ศึกระหว่าง วาคานด้า

และก็ทาโลคาน ริริ วิลเลียมส์ ในสมญานาม Ironheart ที่ ขอบอก เลยว่าเธอ คนนี้มีเสน่ห์ ไม่น้อยเลยทีเดียว เป็นคนที่สามารถ ทำให้นายพล สุดแกร่งของหน่วย โดรามิลาเจ ถึงกับเสียเซลฟ์ได้ ทำให้เธอเป็น หนึ่งในตัวตึง วาคานด้าเลยจริง ๆ แต่คำถาม ก็คือเรื่องราว ของเธอภายหลัง จบภาพยนตร์เรื่องนี้ จะเป็นอย่างไรถัดไป

Black Panther ตัวตึง

เรารู้กันแค่ว่า Ironheart จะมีซีรีส์ ที่มาเล่าเรื่องราวของตนเองต่อ Black Panther

มันจะออกมาเป็นอย่างไรนั้น ปัจจุบัน Dominique Thorne เจ้าของ บทริริ วิลเลียมส์ ได้ ให้สัมภาษณ์กับ Screen Rant ว่า…

“ มันเป็นคำถาม ที่จะคำตอบ มันรออยู่แล้ว ในซีรีส์ ที่จะฉายปีถัดไปค่ะ

แต่ฉันคิดว่าหลายสิ่ง ที่เราเห็นริริใน Wakanda Forever เป็นจุดเริ่มแรก ของการแสดง

ให้เห็นความทะเยอทะยาน ของเธอ และก็เริ่มเข้าใจว่า แท้จริงแล้ว มันหมายความว่อะไร

ในหนังได้ มีการบอกใบ้ อยู่แล้วค่ะ เธอได้กลับไปที่ MIT และก็มีธุรกิจเล็ก ๆ ของตนเองอยู่

กระทั่งเธอได้เห็น โลกที่กว้างขึ้น แล้วเธอก็ไม่มีทางเลือก อื่นนอกจากจะต้องเผชิญหน้ากับมัน

ฉันคิดว่า การเผชิญหน้านั้น เธอไม่ได้มีอะไรเลย นอกเหนือจากความฉลาด ของตนเอง

นั่นมันทำให้น่าสนใจ ในตัวของมันเองเลยค่ะ ถ้าหากทุกคนแลเห็นสิ่งพวกนั้น

พวกเขาก็อาจจะ ชื่นชอบสิ่งที่ กำลังจะเกิดขึ้น ในซีรีส์ ที่จะฉายปีถัดไป ด้วยเหมือนกันนะคะ ”

 

สิ่งที่น่าสนใจ ในตัวของริริ วิลเลียมส์ ก็คือ เธอมีความอัจฉริยะ ชนิดที่ทัดเทียมกับชูริ

เธอสามารถ สร้างชุดเกราะนี้ ขึ้นมาได้ แต่สิ่งที่ทำให้ เธอแตกต่างจากโทนี สตาร์

ก็คือ เธอไม่ใช่มหาเศรษฐี เธอเป็นแค่ เด็กธรรมดา

ที่จะต้องฝ่าฟันชีวิต มันน่าสนใจที่ว่า เธอจะสามารถ ใช้ความอัจฉริยะของตนเอง

ออกมายังไง แล้วจะ สร้างชุดเกราะของตนเอง ขึ้นมา ในแบบไหน

นี่ทำให้ Ironheart เป็นอีกตัวละครหนึ่ง ที่น่าติดตามต่อ เลยจริง ๆ

 

“Black Panther: Wakanda Forever” ประกาศศักดา..มุ่งหน้า 200 ล้านบาท ภายหลัง “ Marvel Studios’ Black Panther: Wakanda Forever แบล็ค แพนเธอร์ วาคานด้าจงเจริญ ” ภาคต่อ ภาพยนตร์ซูเปอร์ วีรบุรุษฟอร์มยักษ์ ระดับตำนาน

ก็หวนกลับมา ทำสถิติ เปิดตัวยิ่งใหญ่ ที่สุดใน จักรวาลมาร์เวล พร้อมปิดเฟส 4 ของจักรวาลมาร์เวล อย่างงดงามและก็ยิ่งใหญ่

ใกล้ถึง สถิติภาพยนตร์ ของจักรวาลมาร์เวล ที่ทำเงินสูงสุด ตามติด Marvel Studios’ Doctor Strange in the Multiverse of Madness : จอมเวทย์มหากาฬ ในมัลติเวิร์สมหาภัย

ขณะนี้ที่กำลัง มุ่งสู่ 200 ล้านบาท ที่เหล่าสาวก และก็แฟน ๆ มาร์เวลต้องห้ามพลาด

นักวิจารณ์ และก็ผู้ชมต่างสรุป ไปในทำนองเดียวกันว่า

บทภาพยนตร์ถ่ายทอด อารมณ์ความรู้สึก ของตัวละครและก็ เรื่องราว ได้อย่างเข้มข้น และก็ลึกซึ้ง ที่สุดเท่าที่ เคยปรากฏ ในจักรวาลมาร์เวล การถ่ายทอด เรื่องราวของศึก การสูญเสีย ซ้ำไปซ้ำมาของวาคานด้า

และก็การจากไป ของ ที ชัลล่า ซึ่ง การถ่ายทอด เรื่องราวทั้งหมด ของภาพยนตร์ ที่ความยาวแทบ 3 ชั่วโมง ถือเป็นปรากฏการณ์สำคัญ ของยุคแห่งมาร์เวล ก็ว่าได้ ด้วยความสามารถการกำกับ การแสดงจากไรอัน คูเกลอร์ (Ryan Coogler) กับคำนิยาม จากนักวิจารณ์ว่า “ ภาพยนตร์ ที่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณ และก็อารมณ์ความรู้สึก ”

Black Panther วาคานด้า

อีกหนึ่ง ไฮไลท์สำคัญ ที่ทำให้นักวิจารณ์ เทคะแนน ให้กับหนังเรื่องนี้ เป็น ความสามารถการแสดง

ของเหล่านักแสดง ที่ผู้ชมคุ้นหน้า นำทีม โดย แองเจลา บาสเซตต์ (Angela Bassett) เลทิเทีย ไรท์ (Letitia Wright) ลูพีตา ญองอ (Lupita Nyong’o) วินสตัน ดุ๊ก (Winston Duke) ลูพีตา ญองอ (Lupita Nyong’o) และก็โดยเฉพาะอย่าง เตนอช เวร์ตา (Tenoch Huerta)

ที่ฝากความสามารถ ในบทเนมอร์ (Namor) เจ้าผู้ปกครองใต้สมุทรทาโลแคน ได้อย่างยิ่งใหญ่ ทรงอำนาจ และก็มีสเนห์ สมกับที่สาวก มาร์เวลรอคอยการมาถึง และก็โดมินิก ธอร์น (Dominique Thorne) กับบทรีรี วิลเลียมส์ หรือ Iron Heart ที่ได้ใจ ผู้ชมไปเต็ม ๆ

มากไปกว่านั้น แนวทางการถ่ายทำ การลำดับภาพ เสื้อผ้าและก็แฟชั่น ในภาพยนตร์ ที่สร้างสรรค์และก็ถ่าย ทอดออกมา ได้อย่างงดงาม ทั้งฝั่งวาคานด้า และก็ทาโลแคน ประกอบกับ ดนตรีประกอบภาพยนตร์ ที่ถูก แต่งขึ้นเพื่อเชิดชูภาพยนตร์

และก็แบล็ค แพนเธอร์ โดยเฉพาะ เต็มเปี่ยมไป ด้วยอารมณ์ ความรู้สึกถึง การสูญเสีย และก็พลังในการต่อสู้ เช่น เพลง “ Lift Me Up ” ที่ได้ Rihanna ซูเปอร์สตาร์ระดับโลก หวนจับไมค์อีกครั้ง ในรอบหลายปี เพื่อมอบให้ กับช่วงชีวิต ที่แสนพิเศษและก็ตำนาน ของแชดวิก โบสแมน

 

“ นิว ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ ” สาวกมาร์เวล ตัวยงหลังจากที่ดู ภาพยนตร์จบแล้ว ถึงกับพูดว่า “ ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นภาพยนตร์ ที่ยอดเยี่ยม แห่งปีของ จักรวาลมาร์เวล ที่ทุกคนต้อง ห้ามพลาด ภาพยนตร์ ถ่ายทอด เรื่องราวความรู้สึก ออกมาได้อย่าง น่าทรงพลังตลอดระยะเวลา

แทบ 3 ชั่วโมง ดูจบแล้วคือ จะต้องมาดูรอบ 2 เพิ่ม อย่างแน่นอน การันตีว่า ออกมาจากโรงหนัง จะน้ำตาคลออย่างไม่ต้องสงสัย ห้ามพลาด มาดูในโรงหนัง เท่านั้นนะครับ ”

 

ด้าน “ แอนนา เสืองามเอี่ยม ” เล่าความ รู้สึกว่า “ อยากเชิญชวนแฟนมาร์เวล หรือ แฟนภาพยนตร์ ทุกคนมาดู Marvel Studios’ Black Panther: Wakanda Forever แบล็ค แพนเธอร์ วาคานด้าจงเจริญ เนื่องจากภาพยนตร์เรื่องนี้ ถือเป็นผลงาน มาสเตอร์พีซ ที่สร้างสรรค์ขึ้นมา เพื่อสร้างการ เปลี่ยนแปลงจริง ๆ

นอกจากนี้ มาร์เวล ยังวางพลอต เรื่องที่ให้ ซุปเปอร์วีรบุรุษหญิง หรือนักรบหญิง ได้โชว์ความสามารถ อย่างเต็มที่ และก็มีเซอร์ไพร์ ตลอดทั้งเรื่อง ที่ไม่ควรพลาด บอกเลยว่าจะต้องเตรียมกระดาษ หรือผ้า มาซับน้ำตานะคะ รับดูได้แล้ว วันนี้ทุก โรงภาพยนตร์ รีบดูก่อน โดนสปอยล์ค่ะ ”

 

ร่วมสาน ต่อความ มันส์ ระดับตำนาน ของภาคต่อภาพยนตร์ ซูเปอร์ฮีโร่ฟอร์มยักษ์ ที่ทุกคนห้ามพลาด กับ “Marvel Studios’ Black Panther: Wakanda Forever แบล็ค แพนเธอร์วาคานด้าจงเจริญ” ตั้งแต่ วันนี้ เป็นต้นไป จะต้องดู ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น และก็ รีบดูก่อนโดนสปอยล์

 

สกาย วงศ์รวี พลิกบท

“สกาย วงศ์รวี” กลับบทจับคู่แม่-ลูก “ปาน” คลุกคลีแวดวงลอตเตอรี่ รู้ตัวไม่ได้มีพรสวรรค์

กลับบทบาท คลุกคลีวงการลอตเตอรี่ “ปฏิบัติการกู้หวย” ภาพยนตร์ไทยสุดฮาจาก Netflix การันตีโดยผู้กำกับสายคอมเมดี้ “พฤกษ์ เอมะรุจิ” พร้อมสตรีม 16 พฤศจิกายนนี้ ทำเอาพระเอก หนุ่มหน้าใส “สกาย-วงศ์รวี นทีธร” สุดตื่นเต้น ต้องมา รับบทเป็น ลูกชาย นักร้องสาวดีว่า “ปาน-ธนพร แวกประยูร” เป็นเคมี แม่ลูกสุดสนุก กับภารกิจ สุดปั่นของกลุ่มคน โชคดีถูกลอตเตอรี่ รางวัลที่ 1 แต่ว่าลอตเตอรี่ กลับถูกกลุ่มมาเฟีย ช่วงชิงไป เลยชวน สกายมาเปิดใจ

เรื่องนี้ ผมสวมบทบาทเป็นเต เป็นลูกของ แม่ต้อย ที่แสดง โดยพี่ปาน-ธนพร เป็นครอบครัว ที่อยู่กันสองคนแม่ลูก เพราะเหตุว่าพ่อทิ้งไป มีภรรยาใหม่ตั้งแต่เตยังเด็ก

แม่ต้องหาเลี้ยงอยู่คนเดียว หางาน เปลี่ยนงาน ไปเรื่อย ๆ กระทั่งย้าย มากรุงเทพฯ แล้วเจองาน ที่ใช่เป็น การขายลอตเตอรี่ เป็นอาชีพหลัก สำหรับเพื่อการทำมาหากิน

สกาย วงศ์รวี จับคู่

สกาย วงศ์รวี คลุกคลี

ความท้า ในบทบาทนี้คือเรื่องของ การที่ต้องไปเรียนรู้ อินเนอร์ของผู้ขายลอตเตอรี่

รวมถึงความรู้สึก ของการอยากมีชีวิต การเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น ซึ่ง ในเรื่องนี้นักแสดง หลักทั้ง 5 คน เป็นคนหาเช้า กินค่ำที่มีเป้าหมาย ในชีวิต ว่าต้องการที่จะให้ตัวเอง รวมทั้งคนที่ เค้ารักมีชีวิตการเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น

ซึ่ง สิ่งที่จะสามารถช่วยให้ไปถึงเป้าหมาย ได้อย่างเร็วที่สุด ก็คือการ ถูกลอตเตอรี่ รางวัลที่หนึ่ง ด้วยเหตุผลดังกล่าว เตในฐานะ ผู้ขายก็ มีความเชื่อนี้ เหมือนกัน นอกจากขายลอตเตอรี่ และก็จะเก็บลอตเตอรี่ ไว้เองหนึ่ง ใบในทุกงวด”

เรื่องนี้ ต้องสวมบทบาทเป็น แม่ลูกกับพี่ปาน-ธนพร การทำงานเป็นยังไง?

“ ดีรวมทั้งสนุกครับผม พี่ปาน เป็นคนที่ทำงาน มืออาชีพมาก ทำอะไร ก็พร้อมทำสุดตัว พี่ตุ๋ย-พฤกษ์ ผู้กำกับ อยากที่จะให้ทำอะไรก็ทำ และก็เป็นคนง่าย ๆ เวลาพักกอง ก็ชวนคุยตลอด ตอนแรกที่เจอกัน พี่เค้าเป็นผู้ใหญ่ ผมก็เกรงใจ เค้าไม่กล้าชวนคุยเยอะ แต่ว่าพี่ปาน ก็มาคุยเรื่องต่าง ๆ เรื่องปฏิบัติธรรมบ้าง ก็สนุกดีครับผม พี่ปานเป็น คนมีพรสวรรค์ สำหรับในการแสดงมาก เพราะว่าเค้าเคย เล่นละครเวที มาก่อน

ผมรู้สึกว่า คนที่เล่นละครเวที มาก่อนแล้ว มาเล่นหนัง ซีรีส์ ละคร จะสามารถสื่อสาร ออกมาได้ ถึงคนดูได้ดี เพราะว่าเวลา เล่นละครเวที ก็ต้องส่ง การแสดงไป ถึงผู้ชม ที่อยู่ไกล 100 เมตร

ก็ต้องส่งไป ให้ถึง เพราะดังนั้น เรื่องการสื่อสาร อินเนอร์สำหรับเพื่อการแสดง ไม่มีปัญหา สำหรับพี่ปาน อยู่แล้ว หากถามหา ความประทับใจ ทุกคนตั้งใจ มาถ่ายทำเรื่องนี้ เพราะว่าเรื่องนี้ เป็นภาพยนตร์โดย Netflix ด้วย

รวมทั้งทุกคน ก็ตั้งใจ ทำออกมาอย่างมาก แต่ละคน ก็มีทักษะของตัวเอง อย่างพี่แจ๊ส ชวนชื่น พี่แพท-ณปภา พี่สมจิตร จงจอหอ ก็จะถนัด ด้านคอมเมดี้

ฝั่งพี่ปาน มินนี่-ภัณฑิรา ถนัดเรื่อง ของอินเนอร์ ผมรู้สึกว่า เป็นการรวมตัวกัน ที่ค่อนข้างหลากหลาย รวมทั้ง เมื่อผลงาน ออกมาก็คงจะ มีอะไร ที่สนุก ให้ผู้ชม เหมือนที่ พี่ตุ๋ย ผู้กำกับ ให้คำนิยาม เรื่องนี้ว่า เป็นดาร์กคอมเมดี้

เป็นมีความสู้ชีวิต นิดนึง ไม่ได้มี ความคอมเมดี้จ๋า ๆ ผมเห็นว่าความสนุก อยู่ที่เรื่องลอตเตอรี่ ที่เป็นแกนหลัก เพราะว่าผมรู้สึกว่า ลอตเตอรี่

เป็นอะไรที่สามารถ สื่อสารได้ กับทุกคน ลอตเตอรี่ เสมือนกับเป็น ความบันเทิง ของคนไทย รวมทั้ง อยู่ในรากของคนไทย หลายชั่วอายุคน ก็เลยคิดว่าผู้ชม จะสามารถเข้าถึง สิ่งนี้รวมทั้ง อินไปกับเนื้อหา ของเรื่องได้”

เป็นช่วงที่ส่งผลงาน แสดงต่อเนื่อง รู้สึกยังไง ถึงความฮอต ในช่วงนี้?

“ ก็ดีครับผม ส่งผลงานต่อเนื่องให้ได้ชมกัน ”

มองการทำงาน ที่เติบโตของตนเองในขณะนี้ยังไง?

“ ผมเห็นว่าเสมือน เป็นสเต็ปของตัวเองไปเรื่อย ๆ ครับผม เพราะว่าเข้าวงการ มาตั้งแต่ ม. 4 ขณะนี้ ก็ 8-9 ปีแล้ว

ก็เสมือนค่อย ๆ ไต่ไปเรื่อย ๆ เสมือนพอเรา ผ่านไปเรื่องนึง ก็จะเจอเรื่องใหม่ ที่มันมีกำแพง ที่เราต้อง ก้าวผ่านไป ได้เรื่อย ๆ แล้วผมก็เป็น คนที่ไม่ได้ เป็นนักแสดง ที่มีพรสวรรค์ อะไรอยู่แล้ว ก็ต้องพยายามต่อไปเรื่อย ๆ ในทุก ๆ เรื่อง รวมทั้งตั้งมั่น ทำในทุก ๆ โปรเจกต์ ให้มันออกมาดียิ่งขึ้น เรื่อย ๆ ไม่มีคำ ว่าจบใน การพัฒนาตนเอง”

มีบทบาทไหน ที่สนใจอยากแสดงหลังจากนี้?

“ ผมอยากเล่น แนวทริลเลอร์ ทริลเลอร์แบบดาร์ก ๆ รวมทั้ง แนวแอ็กชัน ที่มีคิวบู๊ ต้องมีคิว มีบล็อกกิ้ง มีความคิดว่าคงจะสนุก ”

ฮอตอย่างนี้เรื่องหัวใจ ขณะนี้เป็นอย่างไรบ้าง ยังไม่มีแฟนอยู่รึเปล่า?

“ ก็อย่างเดิมครับ (หัวเราะ) ยังไม่มีแฟนอยู่ เพิ่งจะมีเพื่อนครับผม (หัวเราะ) ”

ณ ตอนนี้ สาวในสเปกเป็นไง หรือเจอคนแบบไหน ที่จะทำให้สกายแพ้ทาง?

“ อืม จริง ๆ แล้วผม ไม่เคยระบุสเปกเลย หาก เป็นแต่ก่อน จะชอบคนผมยาว เพราะเหตุว่าตอนเด็ก ๆ นอนเล่น กับแม่แล้ว ชอบม้วนผม แม่เล่น (หัวเราะ) ”

 

สกาย วงศ์รวี วงการ

ประวัติ สกาย วงศ์รวี นทีธร

สกาย วงศ์รวี นทีธร ผู้แสดงชาย สังกัดนาดาวบางกอก

เกิดวันที่ 25 เดือนมิถุนายน พุทธศักราช 2541

เดี๋ยวนี้อายุ 23 ปี สกายเริ่มต้น เข้าสู่วงการบันเทิง จากรายการ Hormones The Next Gen รายการ ค้นหา นักแสดง หน้าใหม่ ที่จะมาแสดง ในซีรีส์เรื่อง ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น โดยรายการ ได้มาถ่าย ที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย Ffp ในตอนที่ทีมงาน กำลังจะกลับ ก็ได้เจอสกาย กำลังเตะบอลอยู่ กับเพื่อน

ก็เลยได้ชักชวนให้เข้ามา แข่งขันกระทั่งเขา ได้ผ่านเข้ารอบ ไปถึงรอบ 40 คนสุดท้าย รวมทั้งสกาย ก็ได้มารับบทเป็น พละ ผู้มีเชื้อเอชไอวี ตั้งแต่เกิด ในซีรีส์ ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น ซีซั่น 3 ก็ทำให้สกาย มีชื่อเสียงรวมทั้ง ได้เข้าเป็น นักแสดงในสังกัด นาดาวบางกอก

ต่อมา สกาย วงศ์รวี นทีธร ได้ส่งผลงาน การแสดงใน I Hate You, I Love You โดยเขา ได้รับบท โจ หนุ่ม ขายบริการริมทาง แต่ว่าการแสดง ในเรื่องนี้ ได้เสียงตอบรับ ที่ไม่ดีเท่าไรนัก

เพราะว่าสกายภาพลักษณ์ ไม่เหมือน ผู้ชายขายบริการ รวมทั้งพูดไม่ชัด ที่มาจากการ ที่สกาย เป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูด ทำให้กล้ามเนื้อที่ลิ้น ไม่ค่อยทำงาน

รวมทั้งในปีพ.ศ. 2560 สกาย ได้แสดงในซีรีส์ Project S The Series ตอน Side by Side พี่น้องลูกขนไก่ โดยเข้าได้รับ การเสนอ ชื่อให้เข้าชิง รางวัลนักแสดงสมทบชาย ของรางวัลนาฏราช ครั้งที่ 9 รวมทั้งปีพ.ศ. 2562 สกาย ก็ได้แสดงเรื่อง My Ambulance รักฉุดใจนายฉุกเฉิน รวมทั้งเขายัง ได้ร้องเพลงประกอบซีรีส์ ในเพลง Love Message ร่วมกับ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ อีกด้วย

ติดตามไอจี สกาย วงศ์รวี นทีธร @skywongravee

 

ฟิล์ม ธนภัทร บัตรแฟนมีต

“ฟิล์ม ธนภัทร” ดีใจ บัตรแฟนมีต ขายหมดเกลี้ยงใน 1 นาที ขอบคุณแฟนจากใจ

ทำเอาหนุ่ม “ฟิล์ม ธนภัทร กาวิละ” ถึงกับปลื้มสุด ๆ หลังจากประกาศ จัดงานแฟนมีตครั้งแรก ที่จะจัดขึ้น ในวันเสาร์ที่ 3 เดือนธันวาคม ที่ Lido Connect Hall 2 กับงาน Film’s First Fan Meeting ซึ่งล่าสุด ได้ทำการ เปิดขายบัตร เป็นวันแรก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายนก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ตั้งแต่เวลา 12.00 น. และก็ สร้างปรากฎการณ์

ขายบัตร ได้หมดเกลี้ยง ภายในช่วงระยะเวลา 1 นาที เพียงแค่นั้น อยากรู้หนุ่มฟิล์ม รู้สึกยังไง? ไปฟังกันเลย

“ ดีใจมาก ๆ เลยครับ ที่งานแฟนมีต ครั้งแรกของผม ได้รับการตอบกลับเป็นอย่างดี ตอนแรก ผมก็ตื่นเต้น แอบลุ้นว่าบัตร จะหมดวันไหน? พอทีมงาน โทร.มาบอกว่า “ฟิล์ม ๆ บัตรขายหมดแล้วนะ หมดตั้งแต่นาทีแรก ที่เปิดขายเลย” ผมก็ช็อตไปนิดนึง ตกใจเช่นกันครับ ด้วยเหตุว่าเราไม่คิด ว่าจะได้รับ การตอบรับจาก แฟน ๆ ดีขนาดนี้

หมดเกลี้ยง ฟิล์ม ธนภัทร

ต้องการขอบคุณ แฟนคลับ ทุก ๆ คน ที่คอยซัพพอต ฟิล์ม ธนภัทร

คอยเป็นกำลังใจ ให้ผมมาตลอด ไม่ว่าผมจะทำงานอะไร หรือ มีโปรเจกต์อะไร ออกมาก็ตาม ขอบคุณจากใจจริง ๆ ครับ ซึ่งในงานแฟนมีตครั้งนี้ ผมยังได้ แขกรับเชิญ สุดพิเศษ อย่าง “แจม รชตะ” และก็ “ตงตง กฤษกร” มาร่วมสร้างสีสัน ความสนุกสนาน ความฟินให้แฟน ๆ กรี๊ด ตลอดทั้งงานอย่างแน่ ๆ ส่วนตัวผมเอง ก็เตรียม ทำเซอร์ไพรส์แฟน ๆ ไว้เช่นกัน อยากให้ทุกคน มาลุ้นไปพร้อมเพียงกัน สุดท้ายนี้ก็ต้องการบอก กับทุกคนว่า ในตอนนี้ผมนับถอยหลัง เพื่อได้ไปเจอ คุณทุกคนแล้ว อยากที่จะให้มาเจอกันเยอะ ๆ ครับผม ส่วนใคร ที่ซื้อบัตรไม่ทัน ก็ขอให้ติดตามที่ เพจ “one connection” กันไว้ให้ดี นะครับผม ว่าจะมีประกาศ ให้ซื้อบัตรเพิ่ม ในทางอื่น ๆ อีกมั้ย ด้วยเหตุว่าผมเอง ก็อยากให้ทุกคน ได้มารวมตัวกันเยอะ ๆ ต้องการยิ้ม ต้องการแชร์ความสุข ความสนุก และก็ เก็บโมเมนต์เหล่านี้ ไปร่วมกันกับทุก ๆ คนเลยครับผม ”

ติดตามข่าว และก็ ความเคลื่อนไหวของงานแฟนมีต Film’s First Fan Meeting ของหนุ่ม ฟิล์ม ธนภัทร ได้ที่เพจ “one connection”

ก่อนหน้าหน้า หนุ่มฟิล์ม ธนภัทร เคลียร์ข่าวมือที่ 3 ปราง-โต้ง เลิกกัน หลังจากที่นางเอกสาว ปราง กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล ออกมา เปิดใจสารภาพ เคลียร์ถึงความสัมพันธ์ กับอดีตแฟนหนุ่ม นักร้องดัง โต้ง พิทวัส พฤกษกิจ หรือ โต้ง ทูพี ที่ต้องปิดฉากความรัก 10 ปี อีกหนึ่งพระเอกหล่อ ที่ถูกโยงเกี่ยวข้อง เป็นมือที่ 3 ทำรักของทั้งคู่ ต้องพังลง มันก็คือ หนุ่ม ฟิล์ม ธนภัทร กาวิละ ก็ต้องรีบออกมา เคลียร์ทันที ในงานแถลงข่าว เปิดผังละคร ช่องวัน 31

ซึ่งหนุ่ม ฟิล์ม ก็ได้อธิบาย เกี่ยวกับประเด็นทั้งหมด พร้อมย้ำชัด ถึงสถานะกับ ปราง เอาไว้ว่า “ก็เป็นเรื่องปกติ เราทำงานด้วยกันสนิทกัน และก็เค้าก็ มีข่าวพอดี มันก็ไม่แปลกที่จะ ถูกโยง ถูกจับตามอง ส่วนตัวผม ไม่ได้ซีเรียสครับ ผมคิดว่าก็ปกติ อยู่แล้วไม่ได้ซีเรียสอะไร ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาก็มีคุยกับปรางบ้าง ก็เข้าใจเขา ตั้งแต่ตอนแรก แต่ว่าบอกเลยว่าก็ ไม่ได้มีอะไรจริง ๆ

ส่วนที่คนคิดว่าเรา เป็นคนมาดามใจ ปราง ในช่วงนั้น ด้วยความที่สนิทกัน มากกว่า เราเล่นกัน เหมือนเป็นพี่น้องกัน คือ ด้วยความ เป็นพระเอก-นางเอก ผมคิดว่าการที่เราสนิทกัน มันทำให้เรา กล้าที่จะเล่น แล้วเต็มที่ เต็ม 100 ทั้งสองฝ่าย มันก็ ทำให้ผลงาน ของเราออกมาดี ผมก็เลย ไม่ได้ซีเรียส กับคำนี้สักเท่าไหร่ ด้วยเหตุว่าเราก็รู้อยู่แล้ว ว่ามัน ต้องถูกโยง เป็นเรื่องปกติ

ส่วนตัว ปราง แล้วก็ปกติทุกอย่างเลย ซึ่ง ก็มีมาปรึกษา คุยกับเราบ้าง นิดเดียว แล้วก็ให้กำลังใจ บอกเขาว่า พี่เลือกอะไร มันก็เป็น สิ่งที่ดีที่สุด สำหรับพี่ ส่วนตัวผม ไม่ได้ซีเรียสครับผม ด้วยเหตุว่าเรารู้อยู่แก่ใจ อยู่แล้วว่าเราไม่ได้ เข้าไปอยู่ ในความเกี่ยวพันอย่างนั้น คือเราเข้าไป ในความสัมพันธ์ แบบเป็นพี่น้องกัน เพื่อนร่วมงานกัน เราจริงใจตั้งแต่ตอนแรกอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่า ไม่ได้ซีเรียส กับข่าวนี้

ส่วนตัว ฟิล์ม ก็สารภาพ ว่าเราก็ชื่นชอบ ปราง อยู่แล้ว หมายถึงว่า เราปลื้มเขา ด้วยความสวยของเขา แต่ว่าอย่างที่ กล่าวว่าผมเข้าหา พี่ปรางด้วยความสัมพันธ์ ที่เป็นพี่น้องกัน ตั้งแต่ตอนแรกอยู่แล้ว เราก็เลย คิดว่าเป็นอย่างงี้ มันดีที่สุด ผมว่า มันเป็นเรื่องของ อนาคตจริง ๆ อะ แต่ว่าปัจจุบันนี้มันเป็นความสัมพันธ์แบบพี่น้องจริง ๆ แล้วก็ สบายใจ ที่มันเป็นอย่างงี้จริง ๆ ผมว่าเป็นอย่างงี้ ในตอนนี้ มันดีที่สุดแล้ว อนาคตก็เรื่องของมัน

เคลียร์ชัด ว่าไม่มีอะไรจริง ๆ แต่ว่าถ้าถาม ปราง น่ารัก ตรงสเปกไหม คิดว่าพอแก่ ก็เริ่ม ไม่มีสเปกแล้วอะ แต่ว่าถามสวยไหม สวย สวยมาก สวยครับ แต่ว่า ไม่มีอะไรจริง ๆ ครับ” งานนี้ เราก็ต้องรอติดตาม ความสัมพันธ์ ของคู่นี้กันถัดไป แต่ว่าสถานะปัจจุบันนี้ ชัดเจนว่า ฟิล์ม-ปราง เป็นแค่เพียงพี่น้องกันแค่นั้นนะจ๊ะ

ขอบคุณแฟน ฟิล์ม ธนภัทร

ประวัติ ฟิล์ม ธนภัทร กาวิละ

ฟิล์ม ธนภัทร กาวิละ เกิดวันที่ 20 เดือนเมษายน พ.ศ. 2536 ที่จังหวัดสระบุรี สำเร็จการศึกษาระดับม. ปลาย จาก โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม ระดับอุดมศึกษา จากคณะบริหารธุรกิจ สาขาการเงิน มหาวิทยาลัยกรุงเทพ โดยฟิล์ม ได้รับเกียรตินิยม อันดับ 2 เคยเป็น สจ๊วตสายการบิน ไทยไลอ้อนแอร์ และก็เคยแข่งขัน DUTCHIE BOY & GIRL 2013

เข้าวงการจากโครงการ “รักฝุ่นตลบ Casting Project” เพื่อค้นหานักแสดงหน้าใหม่ ที่จะเซ็นสัญญา เป็นนักแสดงในสังกัด เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ และก็ร่วม แสดงในซีรีส์ “รักฝุ่นตลบ” มีชื่อเสียง จากการสวมบทบาท หมออินทัช ใน “เสน่หา Diary ตอน กับดักเสน่หา” และก็ เพชร ใน “เรือนเบญจพิษ” ผลงานเรื่อง “เมีย 2018” ในบท วศิน ทำให้ฟิล์ม เข้าครอบครองใจ ผู้หญิง เพิ่มมากขึ้น และก็ในปี พ.ศ. 2562 ฟิล์ม ได้ผันตัว เป็นนักร้องเต็มตัวครั้งแรก และก็ร้องเพลง ในชีวิตแรกอย่างเพลง คนเดียว กับ อภิวัฒน์ พงษ์วาท

ผลงานละครโทรทัศน์

ปี 2558

เจ้าสาวของอานนท์ รับบท เทอด

ปี 2559

เราเกิดในรัชกาลที่ ๙ เดอะซีรีส์ ประชาชนที่มาร่วมจุดเทียนถวายความอาลัย

ปี 2560

กับดักเสน่หา รับบท น.พ.อินทัช เอกเอื้องอังกูร

ปี 2561

เรือนเบญจพิษ รับบท เพชร
เมีย 2018 รักเลือกได้ รับบท วศิน สินสิริเตชินทร์
หน้ากากแก้ว รับบท รัฐ เกริกไพบูลย์

ปี 2562

ภูตพิศวาส รับบท มารุต กสิกรรม

ปี 2563

รักแลกภพ รับบท พิริยะ ธนาพิทักษ์ (พีท) / พิศ / เพียร ธนาพิทักษ์
ฉันชื่อบุษบา รับบท สรัล
พายุทราย

ปี 2565

ฟ้าเพียงดิน
คุณชาย

ผลงานซีรีส์

ปี 2559

รักฝุ่นตลบ รับบท เต้ (โป้ง : ชื่อสมมติที่มะเหมี่ยวใช้หลอกพีทว่าโป้งคือแฟนตนเอง)

ปี 2562

อรุณา 2019 รับบท วศิน สินสิริเตชินทร์
มิวสิควิดิโอ

ปี 2561

ไม่มีวันปล่อยมือ (เพลงประกอบละคร หน้ากากแก้ว) ศิลปิน ดิว อรุณพงศ์

ผลงานเพลง

ปี 2562

คนเดียว ซิงเกิ้ลแรกในชีวิตของ ธนภัทร กาวิละ จากโปรเจกต์ GRAVITY

รางวัล

รางวัล เอ็มไทย ท็อปทอล์คอะเบ้าท์ 2019 สาขา Top Talk-About Memorable Character 1

ติดตาม ได้ที่ไอจี ฟิล์ม ธนภัทร @film.thanapat

ออม สุชาร์ รักครบ5ปี

ออม หวานรักครบ 5 ปี ฝากตัวกับครอบครัว แอมป์ ฝ่ายชายชอบใจได้ของขวัญเป็นลู่วิ่ง

เติมความหวานกรุบ ๆ สำหรับนางเอกสาว “ออม-สุชาร์ มานะยิ่ง” พึ่งจะซื้อของขวัญวันเกิด ถูกใจแฟนหนุ่ม นักธุรกิจ “แอมป์-พิธาน องค์โฆษิต” แถมยังมีโมเมนต์ ดินเนอร์กับ ครอบครัวฝ่ายชาย และ รูปสวีตครบรอบ 5 ปี พบ ออม งานเปิดตัวฟิล์มซีรีส์ฟอร์มยักษ์แห่งปี “Finding the Rainbow : สุดท้าย…ที่ปลายรุ้ง” โดย Viu Original ที่โซนอีเดน 1 ห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลเวิลด์ เลยอัปเดตความหวาน

ออม สุชาร์ ฝากตัว

ออม สุชาร์ ถามวันครบรอบ ที่ผ่านมา เข้าปีที่เท่าใดแล้ว?

“ ปีที่ 5 แล้วค่ะ แฮปปี้ค่ะ ราวกับเราไปเที่ยวประเทศอังกฤษ มากับครอบครัวของพี่แอมป์ เรียกว่าใช้โมเมนต์กันจริง ๆ แทบจะไม่ได้อยู่กันสองคน คืออยู่กับครอบครัวด้วย ”

แอมป์ดูขยันเติมหวาน พาไปเที่ยวตลอด?

“ จังหวะคือเราถ่ายซีรีส์ Finding the Rainbow จบพอดี แล้วพี่แอมป์ ก็ชวนไปเที่ยวกับที่บ้านเค้า โอเคเราว่าง และเลยไป ความพิเศษก็คือ เหมือนเราได้อยู่กับครอบครัวเค้าไปด้วย ครอบครัวเค้าก็เอ็นดูเรา เหมือนผูกพัน ไปมาหาสู่กันมา 5 ปีแล้ว ”

เป็นลูกสาวของบ้านเค้าไปหรือยัง?

“ ก็ฝากตัว มีคุณแม่ น้องสาวของพี่แอมป์ และหลาน ๆ ”

มีญาติหรือใคร ในครอบครัวแอมป์มาแนะนำเทคนิค ในการอยู่บ้านนี้บ้างมั้ย?

“ ไม่ขนาดนั้นค่ะ ที่บ้านเค้าสบาย ๆ เหมือนพอจะมา แนะนำเทคนิคมันก็ดู ไม่สบายแล้วใช่มั้ย ทุกอย่างก็สบาย ๆ เป็นธรรมชาติ ”

แล้วมีผู้แนะนำต้องการให้เรา เตรียมอะไรต่าง ๆ บ้างมั้ย?

“ (หัวเราะ) ด้วยความเป็นสายชิล เราตอบอย่างนี้มา 5 ปีแล้ว เนื่องจากว่าพี่แอมป์ เค้าก็ทำงานเยอะมาก ๆ ก็เรื่อย ๆ ค่ะ ”

5 ปี ยังต้องปรับอะไรมั้ย?

“ สำหรับออมเดี๋ยวนี้คือลงตัวแล้วนะคะ ในความรู้สึกออมมันดู มากกว่านั้น ไม่ได้กุ๊กกิ๊กเหมือนแรก ๆ ที่พบ มันไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว มันเหมือนเรามีอะไรเรา ก็ให้คำแนะนำกัน ปรึกษากัน”

ตั้งแต่รู้จักกันมา ความเป็นแอมป์ที่น่ารักที่สุด ไม่เคยเปลี่ยนเลยคืออะไร?

“ ความน่ารัก สุภาพ อ่อนโยน ที่ทุกคนเห็นเค้า ความจริงเค้าก็เป็นอย่างนั้นแหละ เวลาอยู่บ้าน เค้าก็เป็นคนพูดเพราะ อ่อนโยน มันไม่ใช่ความมุ้งมิ้ง มันซอฟต์ ๆ ”

มีมุมมุ้งมิ้งมั้ย?

“ คือชอบคนพูดเพราะ ความขี้อ้อนเค้าก็มีบ้างค่ะ แบบว่าพี่อยากกินอันนี้ เค้าจะมาอ้อนให้เรา สั่งให้ เค้าจะไม่ค่อยใช้แอปสั่งอาหาร ”

ด้วยเค้าเป็นคนสุภาพ พูดเพราะ เพื่อน ๆ เรามีเกร็งมั้ย เดี๋ยวจะหลุดพูดไม่เพราะ?

“ ไม่รู้เป็นอะไร เพื่อนออมชอบเกร็งเค้า แรก ๆ ที่พบกันจะมีความเกร็ง ออมก็บอกไม่ต้องเกร็ง จริง ๆ พี่แอมป์เป็นคนสนุกนะ ”

เพื่อนกลัวหลุด คำหยาบ?

“ ก็พูดได้ ไม่เป็นไรเลย เค้าไม่ได้ซีเรียสเลย แต่ว่าด้วยเนเจอร์ของเค้า เหมือนเป็นคนสุภาพ เท่านั้นเอง”

เค้าก็เข้ากับเพื่อนเราได้ดี?

“ ใช่ค่ะ ความจริงคือ เค้าเข้าได้กับ ทุกคนเลย ”

ล่าสุดที่เราซื้อลู่วิ่งให้เค้า ได้เช็กไหม ว่าเค้าได้ใช้หรือยัง?

“ ตั้งแต่ซื้อให้วันเกิด ออมก็ถามนะเค้าบอกใช้ไป 2-3 ครั้งเอง นี่ก็ผ่านไปเดือนนึงแล้ว เนื่องจากว่าเค้าทำงาน กลับมาดึกก็เหนื่อยแล้ว อีกวันนึงตื่นมาก็ต้องทำงานแต่เช้า อาทิตย์นึง ก็เลยเหมือนมีเวลาออกกำลังกาย เพียงแค่ครั้งนึง คือวันเสาร์ ไม่ก็อาทิตย์ ”

ออมก็บอกเค้าว่า ต้องวิ่งบ่อย ๆ มั้ยเพราะซื้อมาแพง?

“ ก็พูดว่าต้องใช้บ้างนะ การซื้อของขวัญ ให้เค้ามันค่อนข้างจะยาก คิดหัวแตกเลยว่าจะซื้ออะไรให้ดี ปรึกษากับเพื่อน ๆ เห็นว่าที่บ้านเค้ามีลู่วิ่ง ที่ใช้งานมาเกือบจะ 20 ปีแล้ว นานมาก ออมเลยบอกเปลี่ยนเถอะ อันเก่าคงจะใช้คุ้มแล้วแหละ เลยซื้อใหม่ให้ ซึ่งเค้าก็ถูกใจมาก ๆ ออมเห็นตอนที่ออมให้ แล้วเค้ายิ้มแบบว่าถูกใจอะ ”

ครอบครัว ออม สุชาร์

มาถึงในเรื่องของโซเชียล ที่สาว ออม สุชาร์ และแอมป์ ได้อัปเดตความหวาน

ให้กันตลอดเวลา ที่มีเวลาว่าง ลงโซเชียล ให้ได้ชมกัน เปิดคลิปหวาน เซลฟี่ นึกว่าคู่แฝด ออม สุชาร์ – แอมป์ หน้าเหมือนกันมาก จริง ๆ ทำให้เอาหลายคน ตกใจนึกว่าแฝดกันจริง ๆ

เห็นทีคงจะต้องยก สเตตัส หวานน้อย แต่หวานนะ ให้เลย สำหรับคู่นี้ของ ออม-สุชาร์ มานะยิ่ง และก็ แอมป์-พิธาน องค์โฆษิต ไปครอบครองซะแล้ว

ด้วยเหตุว่า ถึงแม้ความรักทั้งสอง จะไม่ค่อยหวือหวาหรือว่า มีช็อตกุ๊กกิ๊กมุ้งมิ้ง ให้ได้ชมเป็นประจำ ราวกับบรรดาคู่รักซุปตาร์คู่อื่น แต่ว่าถึงอย่างนั้น แล้วถ้าได้โอกาสดีจังหวะเหมาะสม เมื่อใด แฟนคลับ ที่ติดตามช่องทางโซเชียลฯ ทั้งของ ออม และก็ แอมป์ ก็มักจะได้ฟินจิกหมอนตลอด ๆ ตลอดเหมือนกัน

ซึ่งหนึ่งในนั้น ก็รวมถึงโมเมนต์ล่าสุด ที่ถูกนำมาแชร์ผ่านอินสตาแกรม @aom_sushar โดยเป็นคลิปวิดีโอสั้น ๆ กลับมีผลต่อหัวใจหนักมาก เพราะเหตุว่า ภาพที่ปรากฎ เป็นช็อตเอ็กซ์คลูซีฟต์ ของทั้งสองขณะนั่งอิงซบกัน พร้อมกับส่งยิ้มหวาน ให้กล้องถ่ายภาพ

และก็แน่นอน ว่างานนี้นอกเหนือจากที่จะ ทำเอาบรรดาแฟน ๆ พากันชื่นใจที่ได้เห็น มุมโรแมนติกที่นาน ๆ ที จะมีมาเสิร์ฟ ให้ฟินผ่านหน้าจอแล้ว หลาย ๆ คน ก็ยังทักเป็น เสียงเดียวกันด้วยว่า จากคลิปที่เห็น ใบหน้าของ ออม นั้นคล้ายกับ แอมป์ ในบางมุม นับวัน ยิ่งเหมือนยิ่งคล้ายกันมาก ขึ้นทุกวันจริง ๆ

กลัฟ สร้างบ้าน

“กลัฟ” เตรียมงบ 40 ล้าน สร้างบ้านพร้อมสนามฟุตบอล ขอบคุณแฟนๆทำความฝันให้เกินจริง

คว้าพระเอกหล่อหน้าใสไอดอลคนรุ่นใหม่อย่าง กลัฟ-คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ มาเป็นพรีเซนเตอร์เบอร์ใหม่ งานนี้เครื่องดื่ม โออิชิ กรีนที จัดเปิดตัวแคมเปญใหม่ “OISHI GOODNESS OF TEA” อย่างยิ่งใหญ่ โดยใช้ลานหน้าสยามดิสคัฟเวอรี่ กลับเล็กไปถนัดใจ เพราะเหล่าแฟนคลับ ลูกบอลของบิ๊กกลัฟ แห่มาให้กำลังใจแน่นมาก หลังจากกิจกรรม Exclusive Meet & Greet ของหนุ่ม กลัฟ กับแฟนคลับ เสร็จสิ้นจึงได้พูดคุยกับ กลัฟ อัปเดตประเด็นการงาน ที่นอกเหนือจากละคร “มัดหัวใจยัยซุปตาร์” ทางช่อง 3 ที่คู่กับ เจนี่ และก็หนัง “บัวผันฟันยับ” แล้ว ก็ยังมีคอนเสิร์ต และความคืบหน้าเรื่องบ้านที่ทุ่มเงินกว่า 20 ล้านบาท

กลัฟ เตรียมงบ
เริ่มจาก ถามถึงคอนเสิร์ตที่กำลังจะจัดเร็ว ๆ นี้?

“ เวลานี้อยู่ในขั้นตอนเตรียมทุกอย่างกำลังเริ่มฝึกแล้ว เราวางแผนต่าง ๆ ไว้เกือบจะครบ เกือบ 100% แล้วครับ เหลือแค่ลงปฏิบัติจริง ๆ ”

การแสดงดนตรีในคราวนี้จะพิเศษกว่าที่ต่างประเทศมั้ย เพราะจัดในบ้านเรา?

“พิเศษกว่าครับ เพราะเหตุว่าแบบที่ต่างประเทศจะแนวแฟนมีตมากกว่า ขนาดย่อมลงมาหน่อย แต่พอที่ไทยก็จะเป็นการแสดงดนตรีเต็มรูปแบบ”

คอนเสิร์ตบัตรขายหมดเลย รู้สึกอย่างไรบ้าง?

“ดีใจมากเลยครับ และจะต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดี โออิชิ กรีนที มาก ๆ เลยนะครับที่ช่วยกันสนับสนุนให้เกิดคอนเสิร์ต ในคราวนี้”

จะมีเพิ่มรอบมั้ย?

“จริง ๆ ก็อยากเพิ่มนะครับ แต่ว่าด้วยสถานที่และปัจจัยอะไรหลาย ๆ อย่างด้วย ณ ช่วงเวลานั้นน่าจะเป็นช่วงที่ทุก ๆ คนอัดอั้นจากการจัดคอนเสิร์ตมาจากโควิด-19 ทำให้ฮอลต่าง ๆ ไม่ว่าง เรื่องเพิ่มรอบก็เลยยังไม่แน่นอนครับ”

คอนเสิร์ตคราวนี้จะต้องฝึกอะไรเป็นพิเศษมั้ย?

“ไม่บอกดีกว่า มีแขกรับเชิญด้วยครับ แต่ว่าขออุบไว้ก่อนรอติดตามกันครับ”

นางเอกคนแรกของกลัฟจะมาด้วยมั้ย?

“ไม่รู้เหมือนกันครับ 555 จะต้องลองติดตามกัน”

อัปเดตเรื่องสร้างบ้านหน่อย?

“ ขณะนี้ดีไซน์บ้านเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ได้แบบที่ต้องการแล้ว เลือกแบบที่เราถูกใจเป็นหลัก และจะมีสนามบอลด้วยครับ แต่ว่าไม่ใช่สนามขนาด 11 คนนะครับ เป็นสนามฟุตซอลเอาต์ดอร์เล็ก ๆ แบบเล่นกัน 5-6 คน”

ทำไมถึงอยากมีสนามฟุตบอลในบ้าน?

“ เพราะถ้าเกิดสนามบอลที่อื่น เวลาเลิกงานมา อย่างเลิกกองสี่ทุ่ม เราก็ขี้เกียจอาบน้ำออกไปเตะบอลแล้ว แต่ว่าหากมีสนามบอลที่บ้าน ไม่ว่าจะเวลาไหนเราก็สามารถโทร.ชวนเพื่อนมาเตะที่บ้านได้เลย”

พื้นที่บ้านหลังนี้เท่าไหร่?

“ไม่ถึง 1 ไร่ครับ”

กลัฟ พร้อมสนาม
นอกเหนือจากสนามบอลแล้ว มีอะไรพิเศษในบ้านอีก?

“ก็น่าจะเป็นห้องน้องแมวครับ ต้องการให้น้องมีที่วิ่งเล่นมากกว่าอยู่คอนโดในตอนนี้”

งบสร้างบ้านเท่าไร แล้วจะบานมั้ย?

“ คงจะประมาณ 20 ล้าน ก็นับว่าจากน้ำพักน้ำแรง ถ้าเกิดถามว่าจะบานมั้ย ก็คงจะบานอยู่แล้วล่ะครับ เพราะเห็นพี่ ๆ ที่รู้จัก ใครทำบ้าน ส่วนมากงบประมาณบานกันทั้งนั้น”

เตรียมบานไว้กี่เปอร์เซ็นต์?

“100% เลยละกันครับ เพราะไม่รู้ว่าเราจะอยากได้อะไรเพิ่มเติมมั้ย จะต้องรอดูตอนบ้านเสร็จ”

บ้านหลังนี้ถือว่าเก็บหอมรอมริบมากี่ปี?

“ก็ตั้งแต่เริ่มทำงาน ประมาณ 3-4 ปีได้ ก็ภูมิใจมากเลยครับ เพราะความฝันเราตอนแรกก็ไม่ได้ใหญ่โต แค่ซื้อบ้านได้ ดูแลครอบครัวได้ แต่ว่าวันนี้เป็นสิ่งที่ประสบความสำเร็จมา มันก็มาไวมากเหมือนกัน จะต้องขอบคุณแฟนคลับ ทุกคนที่ให้การสนับสนุนผมตลอดมาครับ”