Category ข่าวบันเทิง

ภายหลังที่เป็นประเด็นร้อนมา ตั้งแต่ตอนต้นปีที่ผ่านมา สำหรับข่าวลือจบความสัมพันธ์ ระหว่างนางเอกซุปตาร์ตัวแม่ อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ กับแฟนหนุ่ม ไฮโซพก ประธานวงศ์ พรประภา ทำเอาหลายคนโยงไปว่า ต้นเหตุของการเลิกราคราวนี้ อาจเป็นเพราะมีมือที่ 3 เข้ามาเกี่ยว

ล่าสุดวันที่ (4 มกราคม) ไฮโซพก ได้ออกมาประกาศกลางไอจีสตอรี่ ขอตกลงยุติความสัมพันธ์กับ อั้ม พัชราภามาสักระยะนึง ด้วยเหตุผลของคนสองคน ซึ่งไม่มีมือที่ 3 เข้ามาเกี่ยวแน่ ๆ

โดยข้อความดังกล่าว ระบุว่า

“ผมเห็นข่าวแล้ว ไม่สบายใจก็เลยตัดสินใจ เสริมเรื่องราวให้นิดนึงนะครับ เวลานี้ผมเห็น หลายบุคคลได้โดนโยงเข้ามา ก็เห็นควรที่จะจะต้องออกมา ชี้แจงนิดหนึ่งในเรื่องที่ คิดว่าควรเป็นเรื่องส่วนตัว ผมรู้สึกไม่ดีที่จะต้องทำให้ผู้ที่ ไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลย ต้องมาเดือดร้อนเพราะเรื่องของผม

ตั้งแต่เราคบกันมา ผมไม่เคยมีแม้แต่ คิดว่าจะมีหรือต้องการมีบุคคลที่สาม เนื่องจากว่าคุณอั้มเป็นผู้หญิงที่ดี ที่ผมรักและให้เกียรติโดยตลอด จนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าเราได้ตัดสินใจยุติความสัมพันธ์มาระยะนึง (หลังวันเกิดนิดหนึ่ง) ด้วยเหตุผลของคนสองคน

เกือบ 5 ปีที่ผ่านมา คุณอั้มเป็นคนที่ดี และก็ดีกับผมและครอบครัวมากตลอด เรามีทั้งเวลาทุกข์ และก็เวลาที่สุข และพยายามมาด้วยกันมาก จนกระทั่งวันนี้ผมก็ยัง ให้เกียรติคุณอั้มเสมอ ผมขอขอบคุณทุกท่าน ที่เป็นกำลังใจให้เราสองคนตลอดมา”

ทั้งนี้ มีนางเอกหลายคน ที่ถูกโยงว่าเป็นมือที่สาม

มิน พีชญา ลั่นไม่ใช่นางเอก ม. มือที่ 3 ฉก ไฮโซพก จากอก อั้ม พัชราภา

จู่ ๆ ก็งานเข้าโดยไม่ทันรู้ตัว สำหรับนางเอกหน้าสวย มิน พีชญา วัฒนามนตรี ที่ติดโผเป็นหนึ่งในนางเอก ม. ที่ถูกเม้าท์ลั่นโซเชียลฯ ว่าเป็นนางเอกดัง ซุ่มเงียบเป็นมือที่สามแย่งไฮโซ พก ประธานวงศ์ พรประภา แฟนหนุ่ม ของนางเอกซุปตาร์ อั้มพัชราภา ไชยเชื้อ ที่กำลังมีข่าวลือรัก 5 ปีร้าว อยู่ในขณะนี้

โดย มิน พีชญา เผยว่า “กับข่าวนี้ มินตกใจมาก แล้วก็งงมากว่าจู่ ๆ หวยมาออกเป็นมินได้ยังไง เพราะมินเองก็อยู่ของมินเฉย ๆ ช่วงแรกมีพี่ ๆ เพื่อน ๆ ที่สนิทหลายท่านส่งข่าวนี้ มาให้อ่านว่ามีข่าวลือนางเอก ม.ม้า แย่งแฟนนางเอกซุปตาร์ มินเองก็ยังเฉย ๆ นะ เนื่องจากเรามิได้เกี่ยวอะไรอยู่แล้ว แต่ไป ๆ มา ๆ มีคนเข้ามาคอมเมนต์ ในอินสตาแกรมของมิน เข้ามาไดเรกต์ข้อความ ในอินสตาแกรมของมิน เราก็เลยรู้สึกไม่ดี

ด้วยเหตุผลดังกล่าวมินขอชี้แจงตรงนี้เลยนะว่า ข่าวลือนี้ ไม่ใช่มินแน่ ๆ ล้านเปอร์เซ็นต์ค่ะ มินขอร้องว่า อย่าดึงมินเข้าไป เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ด้วยเลย เราอยู่ของเราเฉย ๆ และก็ที่ผ่านมามินก็ย้ำมาตลอดว่า ขณะนี้เราเองก็ยังโสด แล้วก็ถึงจะมีคนคุยอยู่อย่างที่เคย ให้สัมภาษณ์ไปหลาย ๆ ครั้ง แต่ว่าเราก็ไม่เคยคุยกับใคร ที่มีแฟนแล้ว หรือคิดที่จะไปแย่งแฟนใครแน่นอน ค่ะ”

แมท ภีรนีย์ เคลียร์ชัดหลัง ถูกโยงเป็นมือที่ 3 อั้ม พัชราภา – ไฮโซพก เลิกกัน

ภายหลังที่นางเอกหน้าสวย แมท ภีรนีย์ คงไทย ถูกโยงเป็นหนึ่งในนางเอก ม. ที่ถูกเม้าท์สนั่นโซเชียลว่า เป็นนางเอกดังซุ่มเงียบ เป็นบุคคลที่สามแย่ง ไฮโซพก ประธานวงศ์ พรประภา แฟนหนุ่ม ของนางเอกซุป’ตาร์อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ ที่กำลังจะมีข่าวลือรัก 5 ปีร้าว อยู่ในขณะนี้

ปัจจุบัน ทางผู้จัดการส่วนตัวสาว แมท ภีรนีย์ ได้ให้สัมภาษณ์ โดยเปิดเผยว่า “ยอมรับว่ามีการจับมือกันจริง เพราะว่ามันเป็นงานปาร์ตี้ปีใหม่ ในคืนเคาท์ดาวน์ วันที่ 31 ธันวาคม ก่อนหน้าที่ผ่านมา แล้วก็พบกันแค่วันนั้นวันเดียว

ซึ่งในงานคืนนั้น ก็มีการเต้น และก็จับมือทักทายกันปกติ แต่มิได้มากกว่าพี่น้องแน่นอน เพราะว่าเราก็อยู่ในงานนั้นด้วย รับรองว่าแมทไม่ใช่ บุคคลที่สามแน่นอน ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างแมทกับพี่สงกรานต์ก็ยังดีกันอยู่”

เดี๋ยวก่อน ปราง กัญญ์ณรัณ ตอบปมมือที่ 3 อั้ม-ไฮโซพก

ขณะนี้นักสืบโซเชียลทำงาน กันอย่างมาก หลังมีกระแสข่าวลือหนาหูออกมาว่า “ไฮโซพก ประธานวงศ์” กับนางเอกสาว “อั้ม พัชราภา” ได้เลิกกันเงียบ ๆ ดังที่มีกระแสข่าวออกไป อย่างล้นหลาม

ถ้าเลิกธรรมดาก็ว่าไปอย่าง เพราะทั้งคู่นับว่าเป็น คู่ที่หลายท่านลุ้นให้ลงเอยด้วย การแต่งงาน แต่ว่ามีข่าวเม้าท์ว่า ที่เลิกเป็นเพราะว่ามือที่ 3 รวมทั้งมือที่ 3 ไม่ใช่คนอื่นไกลเป็นคนภายในวงการบันเทิง และที่สำคัญเป็นคนที่ทุกคนรู้จัก

ต่อจากนั้นมีเพจชื่อดัง ปล่อยอักษรย่อ ออกมาว่าเป็น ป. งานนี้หวยดันไปออก ที่นักแสดงสาว “ปราง กัญญ์ณรัณ” ที่พึ่งโสดมาได้ไม่นาน ต่อมามีชาวเน็ต เข้าไปคอมเมนต์ ในไอจีของสาว “ปราง” ว่าขออย่าให้เป็นเรื่องจริง

ต่อมาด้านผู้จัดการสาว “ปราง” ได้เผยว่า… “ไม่ใช่แน่ ๆ ทัวร์ไม่ต้องมาลงลูกสาว ซึ่งตัวเองได้โทรถามปรางแล้ว ถึงข่าวที่เกิดขึ้น ปรางไม่ได้ตกใจ ทั้งยังพูดว่ารู้อยู่แล้ว ต้องเจออย่างนี้เลยเฉย ๆ นั่งอ่านคอมเมนต์ผ่าน ๆ พร้อมทั้งย้ำอีกว่าไม่ใช่ลูกสาวแน่ ๆ”

เป็นข่าวดังกรณีนักแสดงสาว แอล กมลวรรณ สุทินเผือก ขับขี่รถพุ่งชนรถยนต์ข้างถนนเสียหาย หลายคันที่พัทยา จังหวัดชลบุรี ต้นเหตุเพราะเกิดอาการวูบ แต่ก็มีเสียงเม้าท์ว่า เป็นด้วยเหตุว่าเมาแล้วขับหรือไม่? ล่าสุดสาว แอล ขอเคลียร์ใน งานประกาศรางวัล ไทยแลนด์ ดิจิทัล อวอร์ด 2022 ครั้งที่ 4 โดยเล่าว่า

“วันนั้นแอลไปพัทยากับคุณแม่ และก็น้องชายเป็นวันเกิดของคุณน้า ราว 5 ทุ่มกว่า ก็กลับกัน แอลเป็นคนขับแล้วจู่ ๆ มันก็รู้สึกวูบไปเลย คือแอลมีอาการวูบเป็นประจำ แต่ไม่เคยวูบขณะขับรถ คือแอลเป็นความดันต่ำ ต้องรับประทานยาบำรุงเลือด แต่ว่าปกติเรามีคนขับรถ แต่ว่าวันนั้นเราอยากจะไปกันเพียงสามคนแม่ลูก มันก็เลยเกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้น มารู้ตัวอีกที มันก็ชนไปแล้ว

หนูก็รีบวิ่งลงไป และก็ไปยกมือไหว้เขา บอกว่าพี่คะ มีใครเป็นอะไรมั้ยคะ มีใครเจ็บมั้ย หนูขอโทษนะคะ ขอโทษพี่วินมอไซค์ ขอโทษเจ้าของร้านข้าวต้ม ขอโทษทุกคนทั้งหมดค่ะ ไม่ได้มีการหลบหนี และก็ทุกคนเขา ก็เป็นพยาน เพราะพวกพี่วินมอไซค์ ก็พูดออกข่าวไปหมดแล้ว แอลก็พร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง”

แล้วคนอื่น ๆ รู้มั้ยว่าเป็น แอล กมลวรรณ?

“ไม่ทราบค่ะ เนื่องจากหนูใส่แมสก์ แล้วอีกอย่างคือเราไม่ได้ ต้องการที่จะให้เป็นข่าวอยู่แล้ว หนูไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นข่าวเลย คิดว่ามันจะเป็นอุบัติเหตุ แค่นิดหน่อย ที่เราสามารถจะเคลียร์ได้ เพราะก็ไม่อยากที่จะให้คุณพ่อไม่สบายใจ แล้วเราก็อยู่กับแม่ด้วย มันก็น่าจะผ่านไปได้ ในเวย์ของเรา เราสามารถเคลียร์ได้ ภายหลังที่หนูไปเคลียร์กับทุกคน เขาก็ไม่มีสีหน้าโมโหนะคะ ทุกคนนิ่ง ๆ ก็คงยังงง กับเหตุการณ์ ช็อก ๆ ไม่มีการพูดอะไร และก็มีพี่ ๆ มาถามว่าเราเป็นอะไรมั้ย ซึ่งแอลก็ยังหัวโนอยู่เลย แต่ก็ไม่มีใคร ที่จะโวยวายขึ้นมาค่ะ”

มีคำถามขึ้นมาว่าเราดื่มหรือไม่?

“ไม่ดื่มค่ะ เพราะหลังจากที่รถชนปุ๊บ แอลก็ไป สน.เลย แล้วแอลมีการอัดคลิปวิดีโอ ในระหว่างที่แอลเป่าแอลกอฮอล์ด้วย แล้วก็มีหลักฐานอยู่ที่ สภ.พัทยา ในโทรศัพท์ก็ยังมีอยู่ค่ะ คือแอลกอฮอล์เป็นศูนย์เลยค่ะ หนูมิได้ดื่มเลย แต่ปกติหนูเป็นคนดื่มนะคะ แต่วันนั้นหนูไม่ได้ดื่มจริง ๆ ค่ะ ยืนยันว่าไม่ได้เมา แล้วขับ และไม่มีใครช่วยคดี

เนื่องจากมีคอมเมนต์พูดว่าคุณพ่อเป็น ส.ส. ใครช่วยรึเปล่า แอลบอกตรงนี้เลยว่า ทีแรกคุณพ่อยังไม่ทราบเลยว่าหนูรถชน คุณพ่อหนูทราบตอนเช้า จากข่าวพร้อมกับคนทั้งประเทศ เพราะเหตุว่า ดังนั้นไม่มีผู้ใดช่วยแอลค่ะ และสำหรับแอลนะ ถ้าหากอุบัติเหตุหรือเมาแล้วขับ แอลก็พร้อมรับผิดชอบทุกคน ไม่หนีแน่ ๆ ค่ะ”

แล้วเรื่องค่าเสียหายล่ะ เรารับผิดชอบยังไง?

“เห็นประกันเขาตีค่าเสียหายประมาณ 5 แสน ซึ่งประกันเขารับผิดชอบ หมดทุกอย่างอยู่แล้ว ถ้าเกิดมันเกินมาเรา ก็พร้อมรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่ว่าเราก็มีดูแลไป ส่วนหนึ่งบ้างค่ะ เรามิได้ปล่อยคนไหนทิ้งขว้าง แล้ววันที่เกิดเหตุ แอลก็หัวโน แขนก็เป็นแผล แต่แอลคุยกับตำรวจ กระทั่งทุกคนได้ใบบันทึกประจำวัน ผู้เสียหายราว ๆ 10 กว่าคน แอลรอส่งทุกคนขึ้น รถจนกระทั่งหมด จนทุกคนสุขใจ หนูถึงไปโรงพยาบาล”

คุณพ่อรู้เรื่องแล้วว่าอะไรบ้าง?

“อันดับแรกเลย คือเป็นห่วง แต่ว่าเขาทราบว่าเราไม่ได้เป็นอะไร เราไม่ได้เมา แล้วเราก็อยู่กับคุณแม่ พ่อเขาก็รับรู้อยู่แล้วว่า เราไปเที่ยวกันสามคน ด้วยเหตุนั้นก็ไม่มีอะไร ไม่ใช่ว่าแอลไม่แคร์ คนที่อยู่รอบข้างหรือว่าสังคมนะ แต่หนูไม่ได้ทำอะไรผิดอะคะ หนูก็ยอมรับ รวมทั้งรับผิดชอบทุกอย่าง”

วิจารณ์สองมุม แอล ลูก กรุง ศรีวิไล โชว์ผลเป่าแอลกอฮอล์

“แอล กมลวรรณ” ดาราสาวสวย ลูก “กรุง ศรีวิไล” ดาราอาวุโส โชว์ผลเป่าแอลกอฮอล์เป็น 0 ให้เห็นจะจะ โต้หนักไม่มีคนช่วยเหลือ ชาวเน็ตแห่ไลค์ และก็วิจารณ์อย่างร้อนแรง พร้อมวิจารณ์รัวสองมุม ทั้งยังให้กำลังใจ และก็แซะเรื่องการพักผ่อน ก่อนขับรถ

จัดเป็นอีกหนึ่ง ประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ ที่หลายคนสนใจอย่างมากมาย สำหรับเรื่องราว ของ แอล กมลวรรณ บุตรสาวของดาราอาวุโสคนดัง กรุง ศรีวิไล ที่เกิดอุบัติเหตุขับรถชนรถจักรยานยนต์จำนวน 8 คัน ซึ่งทำให้หลาย ๆ คนวิจารณ์อย่างหนักว่า เธอเมาแล้วขับและอื่น ๆ หรือเปล่า

ดาราสาวดีกรีลูก ส.ส.ดัง ซิ่งอัลพาร์ดพุ่งชนรถหน้าร้านข้าวต้มพัง

ปัจจุบันในอินสตาแกรมของสาวแอล มีการอัพเดทรูป ของผลการตรวจแอลกอฮอล์ รวมทั้งข้อความว่า “ขออนุญาตชี้แจงประเด็น แอลเกิดอุบัติเหตุเมื่อคืนนี้ เนื่องมาจากตอนนี้ได้เป็นประเด็นไปต่าง ๆ นานา เรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น แอลขออธิบายในพื้นที่ตรงนี้นะคะ

เมื่อคืนได้เดินทางมาพัทยากับคุณแม่ แล้วก็น้องชายแล้วขากลับ จากงานวันเกิดคุณน้า แอล(ผู้ขับ) กำลังขับกลับโรงแรมที่พัก จู่ ๆก็เกิดอาการ วูบ คล้ายภาพตัด (เป็นอยู่บ่อย ๆ) รู้ตัวอีกทีก็คือรถยนต์ ได้พุ่งเข้าชนกับรถ ที่จอดอยู่ริมถนน แล้วก็กระเด็นเข้าไปในร้านข้าวต้ม และรถยนต์ที่จอดอยู่ รวมแล้ว 9 คน ทั้งเก๋งและรถจักรยานยนต์ พอรู้สึกตัวก็รีบเดินลงไป ถามหาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บในทันที

โดยเหตุการณ์นี้ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นได้เดินทางไป สภ.พัทยา ได้ โดยให้ความรวมมืออย่างดี สำหรับการวัดแอลกอฮอล์ ซึ่ง ผลเป็น “0” ไม่มีการดื่มใด ๆ และไม่ได้มีใคร ช่วยเหลือในด้านไหนเลย ดังที่คน comment กัน”

The Banshees of Inisherin แม้ว่าจะไม่มีโอกาส ได้ชมหนังเรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์ แต่เพราะความเจ๋ง และก็เยี่ยมยอดของหนัง ที่เปลี่ยนเป็นดาวโดดเด่น

เพียงข้ามคืน กับการขึ้นแท่น เป็นหนังหวังรางวัล แถวหน้าของปีนี้ ที่สร้างความโดดเด่นบนเวทีต่าง ๆ พึ่งจะเข้าชิงลูกโลกทองคำเยอะที่สุด และก็ได้โอกาสไปได้ไกล ถึงออสการ์ แล้วก็นี่เป็น The Banshees of Inisherin หนังดราม่าตลกร้ายจากอังกฤษ ที่กำลังแผงฤทธิ์ ความยอดเยี่ยมใส่ชาวโลก ให้เหลียวหันมาสนใจ หนังเล็ก ๆ เรื่องนี้เป็นว่าเล่น

The Banshees of Inisherin คือเรื่องราวความมิตรภาพ อันยาวนาน

ระหว่าง พาด์เร็ค กับ คอล์ม บนเกาะไอนิเชอริน ที่อยู่ ๆ ความเป็นเพื่อนของเขา กำลังสั่นคลอนรวมทั้งสู่สภาวะวิกฤต เมื่อพบว่า คอล์มมีทีท่าที่เปลี่ยนไป พร้อมทั้งอยากยุติมิตรภาพระหว่างกัน

ระหว่างที่พาด์เร็คได้แต่ว่ารู้สึกสับสนว่าเกิดอะไรขึ้น
โดยที่คนรอบข้างเขา ไม่ว่าจะเป็น น้องสาวหรือเด็กตัวปัญหา ของหมู่บ้าน จะช่วยเป็นกาวใจและก็ช่วยซ่อมมิตรภาพ ของพวกเขาให้ แต่ดูเหมือนว่ามันกำลัง นำพาไปสู่เหตุการณ์ ที่ไม่คาดคิดเพิ่มมากขึ้น

นี่คือผลงานล่าสุดของผู้กำกับ “มาร์ติน แมคโดนา” จากหนังรางวัลออสการ์ Three Billboards Outside Ebbing, Missouri ที่ถือว่าเป็นการสั่งสม ประสบการณ์สำหรับเพื่อการปลุกปั้น โครงการหนังเรื่องนี้ถึง 5 ปี

ทั้งกำกับแล้วก็เขียนบทหนัง เรื่องนี้ด้วยตัวเอง ถือเป็นการคัมแบ็กที่น่าประทับใจ และให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ที่คาดการณ์เอาไว้ด้วยซ้ำ เพราะเหตุว่านี่เป็นหนัง ที่เต็มไปด้วยการ สำรวจแนวจิตของคนเรา

สิ่งที่ประทับใจ ที่สุดของ The Banshees of Inisherin ที่จะต้องยกนิ้วให้เลย ก็คือบทหนัง ที่แสนคมคายและก็ตลกร้ายของมาร์ติน แมคโดนา เนื่องจากว่าบทหนัง เต็มไปด้วยเชิงชั้น และความตื้นลึก หนาบางในองค์ประกอบเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างการดีไซน์คาแรกเตอร์ ตัวละครนั้น ถือว่าสร้างมิติได้ดีมาก ทุกตัวละครหลัก ในเรื่องนี้เต็มไปด้วย ซอกมุมที่น่าค้นหา และก็คล้อยตาม เพลินดีไปตลอด ทั้งเรื่อง

โดยเฉพาะอย่างคาแรกเตอร์สำคัญ ๆ

ของ “คอลิน ฟาร์เรลล์” กับ “เบรนเดน กลีสัน” ที่สร้างออกมา ได้น่าประทับใจอย่างดีเยี่ยม แล้วก็ได้เรื่องการแสดง อันเป็นมือโปรของพวกเขา ก็ช่วยประสมประสาน แล้วก็ส่งเสริมความดีเลิศ ของบทหนังให้ได้ดีเพิ่มขึ้น เข้าไปอีก หนังเรื่องนี้มีบทหนัง ที่เป็นเหมือนพระเอก ที่โดดเด่นและยอดเยี่ยม เป็นบทหนังที่ไม่ได้ มีความซับซ้อนอะไรนัก เรียบง่ายและก็เต็มไป ด้วยความคมคาย อันเป็นเอกลักษณ์ดี

เชื่อว่าบทหนังของ The Banshees of Inisherin นั้น จะต้องมีบทบาทสำคัญ บนเวทีรางวัลต่าง ๆ ในตอนต้นปีอย่างแน่แท้ แล้วก็ถ้าว่าประสบความสำเร็จสุด ๆ ก็เชื่อว่าหนังน่าจะ เหมาะสมที่จะคว้ารางวัล มาครองได้สำเร็จเลยจริง ๆ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งงาน มาสเตอร์พีช ของผู้กำกับรายนี้ ที่สร้างสรรค์ผลงานเขียน ออกมาได้น่าจดจำเป็นอย่างดี แม้ว่าจะเป็นเพียง หนังไอริชเรื่องเล็ก ๆ แค่นั้น

งานสร้างของ หนังเรื่องนี้ก็ค่อนข้างน่าพอใจ องค์ประกอบโปรดักชั่นดีไซน์

นับว่าใช้ได้ มุมกล้องแล้วก็การถ่ายรูปร้อยเรียงออกมา เป็นหนังเรื่องนี้ จัดว่าทำได้ดี สร้างบรรยากาศ ด้วยภาพรวมทั้งแสงธรรมชาติ ให้กระตุ้นพล็อตเรื่องของหนังออกมา ได้อย่างแจ่มแจ้งยิ่งขึ้น เก็บรายละเอียดเกี่ยวกับ ยุคสมัยได้ค่อนข้างน่าพอใจด้วย รวมถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น ในตอนต้นศตวรรษที่ 20 ที่ทำได้ดี

รวมทั้งนอกจากการแสดงอันน่าเชยชมของ คอลิน ฟาร์เรลล์ กับ เบรนเดน กลีสัน ที่น่าจะต้องเฉิดฉาย บนเวทีรางวัลแล้ว ยังมี “เคอรี่ คอนดอน” กับ “แบร์รี่ คีโอแกน” ก็ถือว่ามอบการแสดง ที่ยอดเยี่ยมด้วยความเป็นมือโปร ของพวกเขาเองด้วยเช่นกัน การแสดงอัน เป็นธรรมชาติรวมทั้งเข้าถึงบทได้เป็นอย่างดี นับว่าเป็นอีก 2 ผู้ที่ช่วยส่งเสริม ความสมบูรณ์แบบ ให้กับหนังเรื่องนี้ได้ดี

ยังมีอีกองค์ประกอบ ที่ไม่เอ่ยถึงคงจะไม่ได้ ก็คือแคสติ้งนักแสดง สรรพสัตว์ น่าประหลาดใจมากที่หนังเรื่องนี้ มีเหล่าสัตว์ที่มอบ แอคติ้งออกมาได้ชวนน่าทึ่ง สัตว์ทุกตัว ที่เห็นอยู่ในหนังเรื่องนี้ แสดงดีเยี่ยม โดยเฉพาะเจ้าลากับน้องสุนัข ที่เป็นส่วนประกอบเสริมการแสดง ที่บันเทิงเป็นอย่างดี ไหนจะมีน้องม้า หรือแม้กระทั่งนกนางนวล สัตว์ทุก ๆ ในหนังเรื่องนี้ คือน่าทึ่งเป็นอย่างดี

หนึ่งในสิ่งที่ The Banshees of Inisherin เป็นหนังที่ทำให้มีความรู้สึกเซอร์ไพรส์ คนดูได้เป็นอย่างดี เป็นการเล่าเรื่อง รวมทั้งบทหนัง ที่แทบคาดการณ์มิได้เลย เป็นผลลัพธ์การเรื่องราว ที่ทำให้คนดูเอ็นจอย แล้วก็ตลกลึก ๆ ให้กับรอยร้าว ในความสัมพันธ์ มิตรภาพของมนุษย์ ทั้งสองผู้ที่ คนดูเอง ก็ไม่เข้าใจเช่นเดียวกันว่า

เป็นเพราะเหตุใดกันแน่ แต่ทุกอย่างค่อย ๆ ปลดล็อกออกมา ทีละเล็กทีละน้อย กระทั่งทำให้เกิดบทสรุป

ด้วยเหตุผลดังกล่าวโดยสรุปแล้ว ไม่ประหลาดใจเลยว่า The Banshees of Inisherin ได้แซงหน้าขึ้น มาเป็นหนังเยี่ยมยอด ที่น่าประทับใจในรอบปีนี้ ในช่วงโค้งสุดท้าย หนังที่เต็มไปด้วยองค์ประกอบแจ่ม ๆ เต็มไปด้วยคุณภาพ งานสร้างดี บทหนังเยี่ยมยอด

และก็ยังมีการแสดง ที่น่าเชยชม ของทีมนักแสดง ที่ได้ผลลัพธ์ออกมา ได้อย่างคาดไม่ถึง ต้องจับตาดูให้ดี ๆ หนังเรื่องนี้ น่าจะมาแรงอีกเรื่อง ในฤดูล่ารางวัลปีนี้

หลังจากที่ออกมา ประกาศผ่านสื่อว่า ขอก้าวข้ามเฟรนโซน สำหรับพระเอกหนุ่ม นาย ณภัทร เสียงสมบุญ โดยมีความรู้สึกดี ๆ ที่มากเกินกว่าเพื่อน มอบให้นางเอกสาว ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ก็ดูเหมือนกับว่าเส้นทางความรักคราวนี้

จะไปได้ดี ทั้งยังฝ่ายหญิง ก็เปิดโอกาสให้ทำความรู้จัก และไปไหนมาไหน ด้วยกันเพิ่มมากขึ้น กระทั่งทำเอาแฟนคลับ แอบฟินในความน่ารัก ของคู่นี้ไปตาม ๆ กัน

ล่าสุด นาย ณภัทรได้ออกมาอัปเดต ให้ฟังอีกรอบ ขณะเดินทางมาร่วมงาน KING POWER MAHANAKHON GRAND OPENING… THE MAHANAKHON OF LIVES โดยเจ้าตัวเปิดเผย แบบเขิน ๆ ว่าในตอนนี้กำลังทำคะแนนอยู่ ฝ่ายหญิงได้กระซิบบอก ความรู้สึกแล้ว ส่วนคำตอบเป็นอย่างไร ขอเก็บไว้เป็น ความทรงจำของตนเองดีกว่า

นาย ณภัทร เดทที่เยาวราชเป็นไงบ้าง ?

” ขนมปังอร่อยครับ ก็อยากกินเลยไป ผมเป็นคนชอบกินอยู่แล้ว ผมเป็นคนชวน เขาไปเองครับ ที่ไปที่นี่ เพราะมีความรู้สึกว่ามันดี ได้ใช้ชีวิตปกติดี มันเป็นอะไรเล็ก ๆ ที่ผมรู้สึกว่าทั่วไปได้ทำกัน ก็ไม่อยากพลาดโอกาส ที่ผมเคยให้สัมภาษณ์ ไปก่อนหน้านี้ ดีใจครับ ”

คิดไหมว่าไปถึงแล้วคนจะแตกฮือ ถ่ายคลิปลงโซเชียลเยอะแยะ ?

” ในตอนที่เราอยู่ตรงนั้น มีความรู้สึกว่าทุกคนน่ารักมาก ๆ เลย ให้พื้นที่พวกเรามากเลย ซึ่งถ่ายได้นะ ไม่ได้ห้าม แต่อย่าเรียกไปถ่าย เขิน (ยิ้ม) ผมว่าให้ปล่อยไปตามธรรมชาติ แล้วก็ทุกคนในวันนั้น ที่เจอก็น่ารักมากเลย คอยมาพูดส่งกำลังใจให้ ”

” ผมไปกันแบบปกติ ใช้ชีวิตธรรมดา ไม่ได้คิดอะไรเยอะเลย แค่อยากหาอะไรกิน นั่งรถเล่น ”

ถือเป็นเดทแรก อย่างที่ทุกคนเข้าใจไหม ?

” (พยักหน้าและอมยิ้ม) ก็ดีครับ แฮปปี้ น่าจะเขินทั้งคู่นะ ”

จากความเป็นเพื่อนแล้ว มาเปลี่ยนสถานะอย่างนี้ เกร็งมากขึ้นไหม ?

” ไม่เกร็งนะ ก็รู้สึกธรรมดา ๆ สบาย ๆ รู้สึกว่าเป็นตัวเรา และก็เป็นตัวเขาเอง คงจะดีที่สุดครับ ”

ใบเฟิร์น บอกจะมาบอกเราเองเรื่องความรู้สึก สรุปเขายอมเปิดใจให้หรือยัง ?

” เขาก็มากระซิบผมครับ แต่ผมก็แบบ… อะไรนะ ไม่ได้ยิน (ยิ้ม) กระซิบว่า… ขอเก็บไว้เป็นความทรงจำของตนดีกว่าครับ ”

แต่เป็นคำพูดที่ฟังแล้วชื่นใจ ดีต่อใจของเราใช่ไหม ?

” (พยักหน้ายิ้ม) ”

ขณะนี้ใช้สถานะว่าแฟนหรือยัง ?

” กำลังทำคะแนนอยู่ครับ ก็ยังไม่มั่นใจเช่นกัน แต่ว่าลองไปถามเขาดูนะว่า ให้คะแนนเท่าไร”

ถามเรื่องที่ไปปลูกต้นไม้บ้านใบเฟิร์น หลายคนแซว ไม่ได้ปลูกต้นไม้ แต่ว่าเป็นการปลูกต้นรัก ?

” (หัวเราะเขิน) มันเป็นความภูมิใจของตัวเขาครับ และก็เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม เพราะเขาทำงานมาหนักมาก ๆ และเป็นน้ำพักน้ำแรงของเขา เราก็อยากไปเก็บบรรยากาศให้เขา ”

อันนี้ต้นไม้ต้นอะไร ต้นรักไหม ?

” ถามเขาเอง ๆ (แต่ปลูกด้วยใจใช่ไหม?) เขาคงจะปลูกด้วยใจ ส่วนตัวเรา ก็จำไม่ได้แล้วว่าไปช่วยทำอะไรบ้าง หลัก ๆ ก็ไปยินดีกับเขาครับ ”

เราเองก็ทำบ้านด้วย มีปรึกษา ให้คำแนะนำอะไรกันไหม ?

” จริง ๆ มีอะไรก็พูดคุยกันตลอดเวลา เขาชอบส่งรูปมาอวดนานแล้ว ของเขาคงจะเสร็จก่อนครับ ”

เฮอีกแล้ว นาย – ใบเฟิร์น เกี่ยวก้อยเดินชิลเยาวราช หวานทั้งถนน

นาย ณภัทรเกี่ยวก้อย ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก เช็คอินเยาวราช หวานกว่าอาหาร ก็โมเมนต์ฟีลแฟนของทั้งสองนั่นเอง ภายหลังที่ประกาศข้ามเส้นความเป็นเพื่อน สิ้นสุดเฟรนด์โซน กันไปที่เรียบร้อย สำหรับคู่ของพระเอกสุดหล่อ นาย ณภัทรกับนางเอกคู่จิ้น ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ทั้งสองคนก็ถูกเพื่อน ๆ พี่ ๆ ในแวดวงแซวกันแบบน่ารัก เรียกว่าออกอาการเขิน ๆ กันเลยทีเดียว

นอกเหนือจากได้เห็นอาการเขินแล้ว แฟน ๆ ยังได้กรี๊ดหนักมากอีกรอบ เมื่อได้เห็นภาพของ นาย เกี่ยวก้อยควงแขน ใบเฟิร์น เช็คอินที่เยาวราชเดินชิล ๆ หาของอร่อย ๆ กินกันอย่างมุ้งมิ้ง มีภาพออกมาให้เห็น หลายโมเมนต์เลย เรียกว่าถนนเยาวราช ทั้งเส้นเปลี่ยนเป็นสีชมพู เต็มไปด้วยความหวาน ของทั้งคู่

“แม่หมู” ฟินลูกชายโดน “แอน ทองประสม” แซวหล่อขึ้น คำตอบทำเขินหนักมาก

“แม่หมู” ฟินลูกชาย โดนผู้จัด “แอน ทองประสม” แซวเดี๋ยวนี้หล่อขึ้น คำตอบพระเอกหนุ่ม ทำเอาเขินหนักมาก หลังจากทำให้แฟน ๆ เฮกันลั่นทั้งบ้านทั้งเมือง สำหรับพระเอกหนุ่ม นายณภัทร กับนางเอกคู่จิ้น ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ที่เพิ่งจะจับมือ ประกาศสิ้นสุดทางเพื่อน เปลี่ยนสถานะเป็นคนรู้ใจ ก็เริ่มมีภาพทั้งคู่ ชวนกันไปไหนมาไหน อย่างเปิดเผย

ปัจจุบันในอินสตาแกรมของ แม่หมู พิมพ์ผกา ได้โพสต์คลิปลูกชายนั่งยิ้มเขิน โดนผู้จัดละคร แอน ทองประสม อัดคลิปแซวทำไมเดี๋ยวนี้หล่อขึ้น ดูผอมหน้ายาว โดยพระเอกหนุ่ม ยิ้มหน้าบานตอบกลับ “ช่วงนี้มีความสุขมั้ง”

ซึ่งแม่หมูได้ระบุแคปชั่น ใต้คลิปดังกล่าวด้วยว่า “ขอบคุณ คลิปจากพี่แอนด์ ทองม้วน @annethong …. จากกองละคร #แค้น #แอนทองประสม #naphat_nine #นายณภัทร #นายใบเฟิร์น”

งานนี้นอกจากพี่แอนจะทำให้แฟน ๆ ได้ยิ้มเขินตามกันแล้ว คุณแม่หมูเองก็ฟิน กับความรักคราวนี้ของลูกชาย พร้อมเปิดทางให้ผ่านฉลุย แถมยังคอยเป็นกองเชียร์ คนสำคัญอีกด้วย

หนุ่ม กรรชัย แคปชั่นเฉียบ หลังช่วยเปิดทางให้ นาย ณภัทร -ใบเฟิร์น ได้ขยับสถานะ

“หนุ่ม กรรชัย” โพสต์แคปชั่นเฉียบ หลังช่วยเปิดทางให้ “นาย ณภัทร-ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก” ได้ขยับสถานะมากกว่าเพื่อน ยืนยันความสัมพันธ์ สิ้นสุดทางเพื่อนกันทั้งคู่แล้ว สำหรับนางเอกสาว ใบ เฟิร์นพิมพ์ชนก หลังจากเปิดใจ ให้พระเอกหนุ่ม นาย ณภัทรเดินหน้าจีบได้เต็มกำลัง ซึ่งเจ้าตัวยอมรับรู้สึกเขินมาก ที่ฝ่ายชายออกมา รับสารภาพรักต่อหน้าสื่อ แถมยังเอ่ยปากขอบคุณ หนุ่ม กรรชัย ด้วยที่เป็นผู้เปิดทาง ทำให้พระเอกหนุ่ม กล้าโทรมาบอกความในใจ

ด้านพิธีกรดัง หนุ่ม กรรชัย ในฐานะผู้เปิดทาง ให้น้องชายคนสนิท ได้โพสต์รูปคู่กับพระเอกน้องรัก พร้อมแคปชั่นว่า “เส้นทางอ่ะถามได้ แต่จุดหมายต้องไปให้ถึงเอง #PPD #NB” งานนี้แฟน ๆ ต่างเข้ามากดไลค์ให้รัว ๆ และคอมเมนต์แซวพิธีกร คนดังกันมากมาย

จากกรณีนักแสดงสาว แอล กมลวรรณ สุทินเผือก ลูกสาวอดีตนักแสดงดัง กรุง ศรีวิไล หรือ กรุงศรีวิไล สุทินเผือก ซึ่งเดี๋ยวนี้เป็น ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ขับขี่รถตู้และก็เกิดเสียหลัก พุ่งเข้าชนรถจักรยานยนต์ และก็รถยนต์ที่จอดอยู่ข้างทางเสียหาย 9 คัน

แต่ไร้คนบาดเจ็บ โดยเหตุดังกล่าว เกิดขึ้นที่หน้าร้านข้าวต้ม ตำบลหนองปรือ อ.บางละมุง จังหวัดชลบุรี คืนวันที่ 11 ธันวาคม 2565 ก่อนหน้าที่ผ่านมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบแอลกอฮอล์ และกลายเป็นประเด็น ร้อนในโลกโซเชียล

ล่าสุด แอล กมลวรรณ โพสต์ภาพผลตรวจ แอลกอฮอล์ที่ออกมาเป็น 0

ภาพจุดเกิดเหตุ พร้อมด้วยเขียนใจความ ชี้แจงปมขับรถชน รวมทั้งเรื่องผลตรวจแอลกอฮอล์ โดยบอกว่า “ ขออนุญาตชี้แจ้งประเด็น แอลเกิดอุบัติเหตุเมื่อคืนนี้ เนื่องจากว่าตอนนี้ได้เป็นประเด็นไปต่าง ๆ นานา เรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น แอลขอชี้แจ้ง ในพื้นที่ตรงนี้นะคะ

เมื่อคืนได้เดินทาง มาพัทยากับคุณแม่ และก็น้องชายแล้วขากลับ จากงานวันเกิดคุณน้า แอล (ผู้ขับ) กำลังขับกลับโรงแรมที่พัก อยู่ดี ๆ ก็เกิดอาการ วูบ เหมือนภาพตัด (เป็นอยู่บ่อย ๆ) รู้ตัวอีกทีก็คือรถ ได้พุ่งเข้าชนกับรถ ที่จอดอยู่ริมทาง และกระเด็นเข้า ไปในร้านข้าวต้ม และก็รถยนต์ที่จอดอยู่ รวมแล้ว 9 คน ทั้งเก๋งและรถจักรยานยนต์ พอรู้สึกตัว ก็รีบเดินลงไปถามหา คนบาดเจ็บทันที โดยเหตุการณ์นี้ ไม่มีผู้ที่บาดเจ็บ

ต่อจากนั้นได้เดินทางไป สภ.พัทยา ได้ โดยให้ความรวมมือเป็นอย่างดี สำหรับการวัดแอลกอฮอล์ ซึ่ง ผลเป็น “0” ไม่มีการดื่มใด ๆ และไม่ได้มีใครช่วยเหลือ ในด้านไหนเลยตามที่คน comment กัน และหลังจากนั้นก็ได้ แสดงความรับผิดชอบ กับผู้เสียหายทุกคนด้วยใจจริง และรับผิดชอบ โดยตรงนี้ขอให้เป็นหน้าที่ของประกันถัดไป

ในตอนนี้แอลและก็คุณแม่ ปลอดภัยนะคะ ต้องขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วย ที่ทำให้ทุก ๆ คนเป็นห่วง

#ต้องขอโทษพี่ ๆ นักข่าวด้วยที่ ไม่ได้รับโทรศัพท์หนูขอชี้แจงตามนี้นะคะ นี้คือข้อเท็จจริงที่สุดค่ะ
#อุบัติเหตุเกิดได้ทุกเวลา

อย่างน้อยเรื่องราวนี้ ก็ทำให้เรารู้ว่าใครบ้าง ที่รักและเป็นห่วงเราจริง ๆ #ปกติแอลมีคนขับนะคะ แต่เห็นว่าใกล้ไม่ไกล เลยขับเองดูแลคุณแม่ค่ะ ”

ดาราสาว “แอล กมลวรรณ” ไม่เมา กินเหล้าไม่เป็น แม่ยืนยัน ตกใจเสียงกรี๊ด

แม่ ดาราสาว “แอล กมลวรรณ” ยันลูกสาวไม่เมา กินเหล้าไม่เป็น แต่ไปงานเลี้ยงสังสรรค์จริง รับตกใจเสียงกรี๊ด ประตูรถเปิดเอง ก่อนที่จะเสียหลักชนรถ จอดข้างทางพังยับนับ 10 คัน

จากกรณี ดาราสาว แอล กมลวรรณ สุทินเผือก อายุ 34 ปี ลูกสาว กรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ขับขี่รถตู้อัลพาร์ด สีขาว ทะเบียน สว 77 กทม. เสียหลักพุ่งเข้าชน รถมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ ที่จอดอยู่ข้างทาง เสียหายรวม 8 คัน โชคดีไร้คนเจ็บ เหตุเกิดหน้าร้านข้าวต้มกุ๊ย 5 บาท ข้างทางพัทยากลางสาย 3 หมู่ 9 ตำบลหนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

เมื่อเวลาดึกที่ผ่านมา วันที่ 11 ธันวาคม ตามที่มีข่าว เสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 11 ธ.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ร.ต.อ.หญิง ขวัญข้าว อินาวัง รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา ได้เรียก บริษัทประกันภัยชั้น 1 ของรถยนต์ อัลพาร์ด ของดาราสาว และก็ ผู้เสียหายทั้งหมด 9 ราย

มี รถยนต์ 3 คัน และก็รถมอเตอร์ไซค์ 6 คัน เพื่อมาตกลงชดใช้ ค่าเสียหาย เบื้องต้นทางประกันแจ้งว่า จากการประเมิน ค่าความเสียหาย ทั้งหมด มูลค่าโดยประมาณ 500,000 บาท โดยถ้าค่าเสียหายเกินวงเงิน ของบริษัทประกันภัย ก็คงจะต้อง เรียกคนขับมาพูดคุยตกลงชดใช้ ค่าเสียหายที่เหลือ กับกลุ่มผู้เสียหายต่อไป

นายพงษ์ศักดิ์ มาจาด อายุ 33 ปี วินจยย.รับจ้าง หนึ่งในกลุ่มผู้เสียหาย กล่าวมาว่า ก่อนเกิดเหตุได้ ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ มาซื้อกับข้าว ที่ร้านข้าวต้ม ระหว่างที่กำลังนั่งคอยอาหาร จู่ ๆ รถตู้ อัลพาร์ด ได้พุ่งเสียหลัก เข้ามากวาดรถยนต์ และก็รถจยย.ได้รับความเสียหาย นับ 10 คัน

หลังจากนั้นได้เห็น น้องแอล ดาราสาว ซึ่งเป็นคนขับ พร้อมทั้งคุณแม่ ที่นั่งโดยสารมา รีบลงมาจากตัวรถตู้ สอบถามผู้เสียหาย ด้วยความเป็นห่วง โดยที่ตัวลูกสาว และก็ครอบครัว ก็ยกมือไหว้ขอโทษ กลุ่มผู้เสียหาย พร้อมทั้งยินดีชดใช้ ค่าเสียหายทุกอย่าง และก็ยืนยันว่าน้องแอล ดาราสาว ไม่ได้เมาแล้วขับ ตามที่สังคมสงสัย

ตอนที่ นางพรรณวิภา สุทินเผือก อายุ 59 ปี คุณแม่ น้องแอล ดาราสาว เผยด้วยว่า วันเกิดเหตุได้ชักชวนน้องแอล ลูกสาว และลูกชาย มาสังสรรค์งานวันเกิด เพื่อนสนิท ที่เมืองพัทยา โดยยืนยันว่า น้องแอล ไม่มีการกินเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เนื่องจากว่าตัวน้องแอล ดื่มสุราไม่เป็น ในงานปรากฏว่า เพื่อนมีอาการเมาสุราอย่างมาก จึงพาเพื่อนไปส่งที่ที่พัก ในซอยบงกช พัทยาใต้ โดยมี น้องแอล เป็นคนขับ และมีลูกชาย พร้อมทั้งเพื่อน ขับตามหลังมาด้วย

ระหว่างเดินทางกลับโรงแรมที่พัก และมาถึงจุดเกิดเหตุ ปรากฏว่า เห็นประตูรถตู้ฝั่งขวา หลังคนขับ ที่ปิดไม่สนิทเกิดเปิดเอง โดยคาดว่าจะปิดไม่สนิท ด้วยความตกใจ จึงร้องตะโกนลั่น ทำให้ตัวน้องแอล ตกใจไปด้วย ส่งผลให้รถเสียหลัก พุ่งเข้าชนรถจอดข้างทาง ได้รับความเสียหายหลายคัน

และก็ถือเป็นเหตุการณ์ ที่โชคดีสุด ๆ ที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ หรือมีอันตราย หลังเกิดเหตุ คุณพ่อ กรุงศรีวิไล ได้โทรศัพท์มาสอบถาม ด้วยความเป็นห่วง ตอนที่ตัว น้องแอล ยังอยู่ในอาการตกใจ.

ได้มาพบกับ Blue Again หนังไทย ที่มีความยาว ของเรื่องราว เทียบชั้นกับหนัง Avatar ภาคใหม่ที่จะเข้าโรงฉาย หนังนอกกระแส ที่มีความยาวถึง 3 ชั่วโมงนิด ๆ อัดแน่นด้วยปมดราม่า จัดจ้านที่ทะลวงลึก นี่เป็น “Blue Again” หนังไทยฟอร์มเล็ก ๆ

ที่ถูกรับเลือกให้ เข้าสายประกวด ในเทศกาลหนังปูซานของปีนี้ ที่พกพาลีลาธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาออกมา ร้อยเรียงเป็น เรื่องราวชีวิต ในรั้ววิทยาลัย ได้อย่างบาดลึก จนทำให้เรา อยากจะยกให้เป็น หนังไทยเรื่องที่ยอดเยี่ยมในปี 2565 นี้ไปเลย

Blue Again เป็นเรื่องราวบนโลก ที่มิได้ใจดี กับเราเท่าไหร่

ของ เอ หญิงสาว ลูกครึ่งอีสาน-ตะวันตก ดิ้นรนเข้ามาเรียน ออกแบบแฟชั่น ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร โดยหวังว่า จะสามารถช่วยชีวิต โรงย้อมครามของครอบครัว ที่กำลังจะตายลงไปได้ เธอได้พบกับ แพร เพื่อนซี้คนแรก ในมหาวิทยาลัยถูกดึงดูด เข้ามาอยู่ในวงโคจรของเธอ ด้วยต้นทุน ด้านสังคมรวมทั้งความฝัน ที่คล้ายกัน

ในระหว่างที่ เอพยายามปกป้อง ความฝันของตน ไปพร้อม ๆ กับถักทอความสัมพันธ์ กับคนรอบข้างเอาไว้ แต่ก็เหมือน เส้นด้ายจะขาดลง เป็นจังหวะที่ สุเมธ เพื่อนรักคนเดียว ในวัยเด็กผู้เป็นเซฟโซน ก็ได้กลับมาในวงโคจร ของเธออีกรอบ ในค่ำคืนวันคริสต์มาส ตามสัญญา แต่มันยิ่งกลับ ทำให้เอตั้งคำถาม กับตนเองว่า ” บนโลกนี้…ที่ตรงไหนเป็นที่ของเธอจริง ๆ บ้าง ”

นี่เป็นผลงานสร้างหนัง เรื่องแรกของ นักทำหนังหน้าใหม่ “ฐาปณี หลูสุวรรณ” ที่จัดว่าประสบความสำเร็จด้วยดี ตั้งแต่ออกสตาร์ทในเส้นทางนี้ อันที่จริงหนังเรื่องนี้ เป็นการต่อยอด มาจากหนังที่เธอ ทำส่งเป็นธีสิสโปรเจกต์ จบการศึกษาของตน ก่อนนำมาพัฒนาสร้างเป็นหนัง เรื่องยาวที่อัดแน่น ไปด้วยทุกอณูที่รายละเอียด ในแบบที่เธออยากจะเล่า พร้อมด้วยทำหน้าเขียนบทเอง อำนวยการสร้างเอง รวมทั้งยังดูแล หลายส่วนตัวเองด้วย

มั่นใจว่าหลายคน เห็นความยาวของหนัง ที่มากถึง 190 นาที อาจต้องตกใจ อย่างแน่นอน เนื่องจากมันเป็น 3 ชั่วโมง ที่คุณจะต้องนั่งจดจ่ออยู่แต่ ในโรงภาพยนต์ กับอิริยาบถนั่งเดิม ๆ ที่อาจเป็นแผลกดทับได้

แต่พอได้ไปสัมผัส รวมทั้งพิสูจน์ ด้วยตาตนเองแล้วนั้น กับพบว่า Blue Again สามารถประคับประคองความยาวเหยียดของหนัง เอาไว้ได้อยู่หมัด เป็นหนัง 3 ชั่วโมง ที่แทบจะไม่มีจุดไหน ละสายตาแล้วก็จังหวะ ที่เบื่อหน่าย เลยสักช็อตเดียว

ถึงองค์ประกอบงานสร้างของ Blue Again จะยังมิได้ดิบดีอะไร เป็นเพียงการยกระดับ มาตรฐานขึ้นมา จากหนังนักศึกษา ไปอีกขั้นหนึ่งเพียงแค่นั้น นี่เป็นหนังอิสระ ที่ไม่มีนายทุนใด ๆ มาช่วยซัพพอร์ต

แต่สิ่งที่หนัง ถ่ายทอดออกมาทั้งหมดนั้น เต็มไปด้วยความหมาย ที่คมคาย ร้อยเรียงเรื่องราว ออกมาได้มีจังหวะรวมทั้งเชิงชั้น ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ จึงเป็นหนังเรื่องยาวมาก ๆ ซึ่งสามารถสะกดสายตา ผู้ชมได้เอาไว้ แม้จะปวดเข้าห้องน้ำ ก็ไม่อยากจะลุกไปเข้า เนื่องจากกลัวจะพลาดดู ไม่ครบทุกซีน

ทั้งหนังยังมี การใส่รายละเอียดเล็ก ๆน้อย ๆ แต่เรียบง่ายซ่อน เอาไว้ภายในหนังอยู่เรื่อย ๆ

โดยเฉพาะอย่างสิ่งของ รวมทั้งลูกเล่น เรื่องสีต่าง ๆ นี่เป็นหนังอีกเรื่อง ที่เห็นได้ชัดว่า ใช้โทนสีต่าง ๆ มาเป็นตัวแทน ของคาแรกเตอร์ตัวละครนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นนางเอก ที่มีโทนสีฟ้าเป็น ตัวแทนตามชื่อเรื่อง ในขณะที่มิตรภาพรอบข้างเธอนั้น มีทั้งสีเหลืองหรือสีส้ม ที่ถูกนำมาใช้ ซึ่งเป็นโทนสีที่ค่อนข้างจะตัดกับสีฟ้า แต่เมื่อมาอยู่ร่วมกันแล้วนั้น มันเป็นสีที่ช่วยส่งเสริมกันและกัน ได้อย่างน่าแปลกใจ

แน่นอน ว่า ด้วยความที่ BlueAgain เป็นหนังอิสระ เราจึงแทบจะ ไม่รู้จักนักแสดงในเรื่องเลย พวกเขาเป็นเพียงแค่นักแสดงโนเนม ที่ยังไม่มีชื่อเสียงใด ๆ แต่นั่นก็ถือได้ว่าเป็นจุดเด่น รวมทั้งข้อดีของหนัง เนื่องจากพวกเขาสามารถ ช่วยกันประคองหนัง เอาไว้แบบเป็นทีม

บางทีอาจจะยังไม่ใช่การแสดง ที่ดีระดับเพอร์เฟ็ค แต่แอคติ้งรวมทั้งอินเนอร์ของพวกเขา เป็นความสดใหม่รวมทั้งน่าค้นหา โดยเฉพาะอย่าง “ตะวัน จริยาพรรุ่ง” ที่ถ่ายทอดอารมณ์ ออกมาได้ชัดเจน ด้วยท่าทีต่าง ๆ แม้ว่าจะไม่ต้องพูด บทเลยก็ตาม

แต่ดีเด็ดรวมทั้งไฮไลต์ของจริง ของ BlueAgain ก็คือบทหนัง บทหนังที่ผู้กำกับ เป็นคนลงมือปรุงแต่งด้วยตัวเอง อาจจะยกได้ว่า เป็นบทหนังไทย ที่ดีที่สุดในรอบ ทศวรรษเลยก็ว่าได้ เนื่องจากบทหนังเรื่องนี้ เต็มไปด้วยมิติรวมทั้งความซับซ้อน

ในการสำรวจตัวละคร ได้อย่างมีเชิงชั้น พูดได้ว่าบทหนัง สามารถพาผู้ชม ไปสอดส่องแง่มุมต่าง ๆ ของคาแรกเตอร์ ที่ไม่ใช่แค่เพียง ตัวละครหลักเพียงแค่นั้น ทุกตัวละครในหนัง เรื่องมีภูมิหลังรวมทั้งปมของตน เกือบจะทั้งสิ้น รวมทั้งหนังก็ใส่รายละเอียด มาได้กำลังพอดี

ทั้งบทหนังเรื่องนี้ ยังจัดจ้านด้วยการ ถือใส่ประเด็นที่มองดู อาจจะธรรมดา ๆ แต่กลับสร้างความอิมแพค ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งประเด็นความสัมพันธ์กับมิตรภาพ เรื่อยไปถึงสายสัมพันธ์ในครอบครัวแบบไทย รวมทั้งเหวี่ยงไปเฉียด

ถึงประเด็นละเอียดอ่อน อย่างความเชื่อนับถือ ทางศาสนาด้วย ที่จะต้องเห็นด้วยเลยว่า BlueAgain สามารถไล่ตาม เก็บทุกรายละเอียด เอาไว้ได้อย่างคุ้มค่า เป็นบทหนังที่ใช้เวลา 3 ชั่วโมง ได้อย่างเต็มที่

เรื่องทุ่มเทเปย์หนัก จะต้องยกให้หนุ่ม “ฟลุ้ค ณธัช ศิริพงษ์ธร” เค้าเลยจ๊ะ ที่ล่าสุดทุ่มงบประมาณ 6 หลัก จัดร้าน THE LITTLE WHITE HOUSE CAFE ธุรกิจของเจ้าตัว ให้แปลงเป็นธีมวันคริสต์มาส ต้อนรับเทศกาล ที่การเฉลิมฉลอง ให้ได้ไปเช็คอินถ่ายรูปสวย ๆ ชิมเมนูฉ่ำ ๆ ที่ดีไซน์มาเพื่อ เป็นของขวัญ ส่งท้ายปีให้ลูกค้าและ แฟนคลับ

ทั้งดีไซน์ตกแต่ง ไปคัดสรรอุปกรณ์ มาด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังอัปเดต ผลงานซีรีส์ ทิ้งทวนท้ายปี รวมถึงผลงานปีหน้า แบบรัว ๆ ให้ได้ติดตาม กันอีกด้วย

ฟลุ้ค ณธัช เปิดเผยว่า

” วันคริสต์มาสเป็นอีกหนึ่ง เทศกาลที่คนตั้งตารอคอย เพราะว่ามันคือการเฉลิมฉลอง เพราะอะไรถึงควักถึง 6 หลักเลย จริง ๆ มันก็รวม ๆ หลายอย่างครับ รวมไปถึงต้นคริสต์มาส ไฟ และก็ของตกแต่ง เครื่องดื่มด้วยครับ ฟลุ้คอยากให้ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์ค ที่คนจะมาถ่ายรูป ในตอนเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่นี้ครับ

ฟลุ้คชอบเทศกาลคริสต์มาสอยู่แล้ว เพราะว่ามันเป็นอีกหนึ่ง สัญญาณที่บอกว่าเรากำลังจะขึ้นปีใหม่ และบรรยากาศจะอบอวล ไปด้วยบรรยากาศ แห่งการเฉลิมฉลอง ก็มีทั้งไปเดินหาซื้อ ดูของเอง เพื่อที่เราจะได้เห็นของ และวัสดุจริง ๆ ไม่ได้คิดคนเดียวครับ มีพี่ผู้จัดการช่วยดูแล

และก็ช่วยจัดครับ เราใช้เวลาจัดเตรียมจัดกัน ก็เป็นเดือน มุมหน้าร้าน เป็นมุมไฮไลท์ เราวางต้นคริสต์มาส แบบจัดเต็ม พยายามจัดให้ออกมา มีความเป็นวินเทอร์ มีหิมะตก พยายามหารายการอาหาร ที่มันเข้ากับตอนเทศกาล และมีความแปลกใหม่ การันตีว่าอร่อยแน่ ๆ ครับ เป็นปีแรกที่เราได้จัด ก็เชิญชวนนะครับร้าน https://www.facebook.com/TheLittleWhiteHouseCafe เปิด ทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) เปิดตั้งแต่ 11.00-20.00น. ครับ

ส่วนผลงานเวลานี้ มีซีรีส์กำลังออนแอร์ เรื่องเชือกป่านครับ Between Us the series ทางช่อง One31 และมีเรื่อง 609 Bedtime Story ครับ แฟนคลับ สามารถรับชมกันได้ ทั่วโลกเลยครับ ส่วนปีหน้า ก็จะมีซีรีส์ อีก 2 เรื่อง Make a Wish ภารกิจนายเทวดา และก็ Shadow เงา ล่า ตาย ครับ และมีภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่อง The sis อมตะพันธุ์ ที่จะเข้าฉาย วันที่ 20 เดือนกรกฎาคม 2023 ครับ

เรื่อง ‘609 Bedtime Story’ เป็นอีกหนึ่งเรื่อง ที่อยากนำเสนอ ให้ชมกันครับ เนื้อเรื่องมีความแปลกใหม่ โลกคู่ขนาน แบบเวลาสวนทางกัน ต้องการให้ทุกคนได้ ดูซีรีส์อีกหนึ่งเรื่องฝีมือคนไทย ฝากผลงาน ของฟลุ้คด้วยนะครับ ช่วงปลายปีอาจมี กิจกรรมจัดปาร์ตี้ หมูกระทะเหมือนปีที่ผ่านมาครับ ติดตามอัปเดตกันอีกครั้งครับ ”

แค่เริ่มก็ปัง “ฟลุ้คณธัช” ทำธุรกิจคาเฟ่ 2 เดือน ไปได้สวย

เรื่องงานก็ปัง ธุรกิจใหม่ก็ไปได้สวย สำหรับนักแสดงหนุ่ม “ฟลุ้ค ณธัช ศิริพงษ์ธร” ที่ล่าสุดเพิ่งทุ่มทุนเปิด “ร้าน THE LITTLE WHITE HOUSE CAFE” แถวพัฒนาการ เป็นของตนเองครั้งแรก กับร้านสีขาวสไตล์มินิมอลสุดเก๋ ที่มีทั้งเมนูเครื่องดื่ม และก็เบเกอรี่หลากหลาย

งานนี้เปิดร้าน ทั้งทีหนุ่มฟลุ้ค ก็ไม่พลาดที่ จะไปเรียนรู้การทำกาแฟ และการเป็นพ่อค้า ทั้งชงทั้งขาย ด้วยตัวเอง เปิดไปได้กว่า 2 เดือน ก็ขายดีหายเหนื่อย กันเลยทีเดียว

ฟลุ้ค ณธัช เปิดเผยว่า “ เป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ ของฟลุ้คเองครับ อยากทำร้านกาแฟ ก็จะต้องไปเรียนรู้ ตั้งแต่เรื่องเมล็ดกาแฟ การทำกาแฟ และก็ชงลาเต้อาร์ต มีโอกาสได้ไปเรียน เป็นให้คนสอนมาสอนที่ร้านเลย เริ่มจากศูนย์

ไม่มีความรู้เรื่องกาแฟและการชงกาแฟเลย โดยเหตุนั้นเราจะต้องมีความรู้พื้นฐานนิดนึง เมนูกาแฟ ที่ฟลุ้คชอบ จะเป็นอเมริกาโน่ยูซุ

อันนี้อยากแนะนำ เรารู้สึกว่าสำหรับคนที่ไม่ชอบดื่มหวาน ก็กินได้ เพราะว่ามันไม่ได้หวาน และมีความเปรี้ยว ของรสชาติส้มยูซุที่ตัดกับกาแฟ ในร้านก็มีขนมด้วย เป็นเค้ก

ถ้าเป็นเรคคอมเมนด์ ก็จะเป็นเค้กมะพร้าว ที่เราชอบอร่อย เปิดร้านมาโดยประมาณ 2 เดือนแล้ว ฟีดแบคค่อนข้างจะดีนะครับ ไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับ หรือคนแถวนี้ ก็มาอุดหนุนกันค่อนข้างจะเยอะเลย อย่างตอนวันแรก ที่มีโอกาสได้ เข้ามาชงเองด้วย

พูดได้ว่าตั้งแต่เช้าจนถึงร้านปิด ก็ไม่ได้นั่งเลย ทุกคนแห่มาให้กำลังใจ กันมากมายครับ ฟลุ้ครู้สึกเปิด ประสบการณ์ใหม่ดี ในช่วงก่อนหน้าที่ผ่านมาพอเราทำงานก็มี แบ่งเก็บเงินส่วนนึง อีกส่วนนึงเราก็แบ่ง ไว้ทำธุรกิจตรงนี้ด้วย อยากใช้เงินก้อน ที่เราแบ่งมาตรงนี้ เพื่อต่อยอดทำธุรกิจดีกว่า นับว่าเป็นอีกก้าวนึง

และเป็นก้าวแรกที่สำคัญ ในชีวิตเลยก็ว่าได้ เพราะว่าถือเป็นธุรกิจชื่อเราเต็มตัว ถือเป็นธุรกิจแรกของตัวเองครับ ขอฝากร้าน THE LITTLE WHITE HOUSE CAFE ด้วยนะครับ อยู่ตรงถนนพัฒนาการตัดใหม่ ใครจะมา ก็สามารถเสิร์ช ในกูเกิ้ลแมพได้เลยนะครับ ร้านเปิดทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ แวะมาอุดหนุน กันได้ครับผมนะครับ ”

ประวัติ ฟลุ้ค ณธัช ศิริพงษ์ธร

ฟลุ้ค ณธัช นักแสดงวัยรุ่นชายชาวไทย เกิดวันที่ 1 เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2539 ฟลุ้คเข้าสู่เส้นทาง สายบันเทิง จากการเริ่ม เป็นนักแสดงใน สังกัดวายุฟิล์ม โปรดักชั่น เขาส่งผลงานการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกเรื่อง เกรียนฟิคชั่น ในปีพ.ศ. 2556 ก่อนจะมามีชื่อเสียง จากการแสดงภาพยนตร์เรื่อง พี่ชาย My Bromance จากนั้นเขาก็ได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง ตีสาม คืนสาม 3D หลังจากหมดสัญญา ฟลุ้คก็ผันตัว เป็นนักแสดงอิสระ

ศาลอาญาอนุญาต ให้ปล่อยตัวชั่วคราว นางเอกสาว “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” หลังจากถูกขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ในคดีแชร์ลูกโซ่ฟอเร็กซ์ 3 ดี นานกว่าสามเดือน ทนายยื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์เป็นแคชเชียร์ เช็ค 5 ล้านบาท ภายใต้ข้อจำกัดห้ามออกนอกประเทศ ถ้าหากเปลี่ยนที่อยู่จะต้องแจ้งให้ทราบ

และก็รายงานตัวต่อศาลทุกเดือน ในขณะที่นักแสดงหนุ่ม “กระทิง-ขุนณรงค์ ประเทศรัตน์” นำหลักฐานเข้า ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่สอบสวนดีเอสไอ ในคดีเดียวกันแล้ว

จากกรณี นางเอกสาว พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช

ถูกพนักงานอัยการ ฝ่ายคดีพิเศษ 4 ฟ้องเป็นจำเลย ในคดีแชร์ลูกโซ่ ฟอเร็กซ์ 3 ดี พร้อมมารดา พี่ชายและก็พวกรวม 24 คน มูลค่าความเสียหาย หลายพันล้านบาท นางเอกสาวและก็ครอบครัวต่างไม่ได้ รับการประกันตัว ถูกส่งไปคุมขังที่เรือนจำ

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ในตอนที่ทนายของนางเอกสาว และก็ครอบครัวพยายาม ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว มาแล้วหลายครั้ง

ความคืบหน้า ที่ศาลอาญา เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 30 เดือนพฤศจิกายน ทนายของนางเอกสาว พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ต่อศาลอาญาอีกรอบ ขอปล่อยชั่วคราว นางสาวสาวิกา ไชยเดช จำเลยที่ 7 เพียงคนเดียวในชั้นพิจารณาคดี มีหลักทรัพย์เป็นแคชเชียร์เช็ค 5 ล้านบาท ประกอบคำร้อง ให้ศาลพิจารณาอนุญาต

ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เมื่อเวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินปล่อยตัว นักแสดงสาวพิ้งกี้สาวิกา ไชยเดช ตามหมายปล่อยของศาลหลัง มีคำสั่งอนุญาต ให้ประกันตัว มีญาติของพิ้งกี้ขับโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน 1 ขย 8415 จังหวัดกรุงเทพมหานคร มารับ

ดังนี้ นักแสดงสาว อยู่ในชุดเชิ้ตสีขาว นั่งอยู่ด้านเบาะหลังฝั่งซ้าย ระหว่างนั้น ยกมือสวัสดีกลุ่มสื่อมวลชน ที่มาคอยทำข่าว ที่ข้างหน้าทัณฑสถานหญิงกลาง พร้อมทำสัญลักษณ์มือ เป็นรูปหัวใจแทนคำขอบคุณ ก่อนเดินทางกลับทันที

เบื้องต้นศาลพิจารณาแล้ว มีความเห็นว่า จำเลยยืนยันในชั้นตรวจ พยานหลักฐานว่าเป็นเพียงนักลงทุน เสนอพยาน 8 ปาก กับเสนอวางเงินสด 5 ล้านบาท เป็นหลักประกันสำหรับเพื่อการปล่อยตัวชั่วคราว มีคำสั่งอนุญาต ให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 7 ตีราคาประกัน 5 ล้านบาท พร้อมตั้งเงื่อนไข ห้ามเดินทาง ออกนอกราชอาณาจักร

ถ้าหากเปลี่ยนถิ่นที่อยู่ ให้แจ้งต่อศาล ภายใน 7 วัน และก็ให้รายงานตัว ต่อศาลทุกเดือน จนกระทั่งจะมีเหตุ เปลี่ยนแปลงและก็ให้แจ้งตำรวจ สตม.รู้ด้วย หลังจากนั้นจึงออกหมาย ปล่อยไปยังเรือนจำ ทัณฑสถานหญิงกลางทันที

อีกด้าน ที่กองธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เวลา 12.35 น. กระทิง-ขุนณรงค์ ประเทศรัตน์ นักแสดงคนมีชื่อเสียง เดินทางมาพร้อมกับทนาย และก็คนสนิท เพื่อเข้าให้ปากคำในฐานะ พยานเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ กับพนักงานสอบ

สวนคดีพิเศษในคดี แชร์ลูกโซ่ฟอเร็กซ์ 3 ดี โดยขึ้นลิฟต์โถง 3 หลังจากนั้นเลือกเข้าประตูห้อง กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ฝั่งตรงข้ามห้อง สำนักงานรองอธิบดี สำหรับเรื่องการสอบสวน ร้อยตำรวจเอกวิษณุ ฉิมตระกูล ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ

เปิดเผยว่าเป็นการสอบถาม ตามประเด็นที่เจ้าหน้าที่สอบสวนตั้งไว้ อีกทั้งลักษณะการลงทุน หรือเส้นทางการเงิน เมื่อสอบสวนในฐานะ พยานเสร็จสิ้นรวมทั้ง ได้รับเอกสารข้อมูลต่าง ๆ จากเจ้าตัวเเล้ว ถึงจะพิจารณา ร่วมกับองค์ประกอบอื่น ๆ ในคราวหลังว่าจะ มีการแจ้งข้อกล่าวหา ตามที่มีบุคคล มาร้องทุกข์กล่าวโทษหรือไม่

ภายหลังสอบปากคำนานกว่า 5 ชม. กระทิง-ขุนณรงค์ นักแสดงหนุ่ม ออกจากห้องสอบปากคำมาเข้าห้องน้ำ ระหว่างนั้นเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนดีเอสไอ เรียกมาสอบสวนในฐานะพยาน ส่วนเรื่องเอกสาร ตระเตรียมมาอย่างเดียว คือ รายการเดินบัญชี รายละเอียดอื่นขอไม่เปิดเผย

เพราะไม่ทราบ สามารถพูดได้มากน้อย มากแค่ไหน ที่เคยแจ้งเลื่อน เพราะติดคิวถ่ายละคร ตั้งใจต้องการคุยให้จบ จะได้กลับมาทำงานปกติ รู้สึกสบายใจ ที่มาชี้แจงในคราวนี้ และก็ยืนยันในความบริสุทธิ์ ยืนยันว่าไม่ได้ ชักชวนบอล-กัมมัญญ์ กลมแก้ว และก็โต๋-ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร ให้เข้าร่วมลงทุน

ผู้จัดการเคลื่อนไหวหลังที่รู้ พิ้งกี้สาวิกา ถูกปล่อยตัว ธัญญ่า โผล่ยินดี

ภายหลังที่นักแสดงสาว พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช ได้รับการประกันตัวชั่วคราว โดยทนาย ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เป็นเช็คจำนวนเงิน 5 ล้านบาท และก็มีเพียงพิ้งกี้แค่นั้น ที่ได้ออกมา ภายหลังที่เจ้าตัว เข้าไปอยู่ในเรือนจำนานกว่า 3 เดือน ในคดี ฉ้อโกงแชร์ Forex-3D

ซึ่งข่าวนี้ ถือเป็นข่าวดีของ พิ้งกี้ สาวิกา และก็ทำให้คนสนิท ของนักแสดงสาว รู้สึกดีใจไม่น้อยที่นางเอกสาว ได้รับการประกันตัว ในคราวนี้ หนึ่งในนั้นคือ พี่เต้ ผู้จัดการส่วนตัว ของพิ้งกี้ที่รัก และก็ดูแลกันมานานกว่า 28 ปี ก็ได้โพสต์รูปคู่

กับพิ้งกี้และก็เขียนแคปชั่นสั้น ๆ แต่ซึ้งกินใจ ว่า “ลูกสาวแม่” พร้อมด้วยอีโมจิหัวใจสีแดง หน้ายิ้มน้ำตาไหล และก็ภาพประนมมือ

งานนี้ก็มีคนบันเทิง มากมายที่มาคอมเมนต์ ยินดีกับการที่ พิ้งกี้ ได้รับการประกันตัวและก็ถูกปล่อยตัว ในวันนี้ อาทิเช่น ธัญญ่า ธัญญาเรศ ที่เข้ามาคอมเมนต์ ว่า ยินดีด้วยนะคะพี่เต้ เบนซ์ ปุณยาพร ที่คอมเมนต์ว่า ดีใจ และก็ นิว วงศกร ที่ส่งอีโมจิหัวใจสีแดง ให้อีกด้วย

“เบนซ์ ปุณยาพร” โพสต์ดีใจ หลังศาลให้ประกันตัว “พิ้งกี้ สาวิกา”

ภายหลังที่ศาลอาญา อนุญาตให้ปล่อยตัว ชั่วคราวนักแสดง สาว “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” ในคืนเมื่อวานนี้ ล่าสุด เพื่อนคนสนิท อย่างสาว “เบนซ์ ปุณยาพร พูลพิพัฒน์” ได้โพสต์ภาพ คู่กับพิ้งกี้ พร้อมด้วยแคปชั่นที่ว่า ” ดีใจ @pinkysavika มาลุยงานต่อ นะเพื่อน ”

ล่าสุด ได้โอกาสสัมภาษณ์ สาวเบนซ์ กับประเด็นนี้ โดยเผยว่า ” ดีใจมาก เพราะมันเป็นราวกับข่าวดี ที่รอลุ้นเพื่อนมานาน ให้กำลังใจมาตลอด ด้วยการส่งข้อความ หาเพื่อน ผ่านผู้จัดการ และก็มีการส่งขนม ให้คุณพ่ออีกด้วย

ส่วนมาก เบนซ์ก็จะถาม ทางผู้จัดการของน้องไป คือตอนแรก ก็มีการพูดคุยเรื่อง ไปเยี่ยมพิ้งกี้ แต่ก็รอความพร้อม จากเพื่อน ทุกอย่างที่ส่งไป เพื่อนก็ได้รับ เราก็ทำงานด้วยกัน แล้วก็เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเด็ก ”

ขณะที่ใจความ ที่ต้องการจะพูดกับพิ้งกี้ สาวเบนซ์ได้เผยว่า ” เบนซ์จะเข้าไปกอด และให้กำลังใจนาง เพราะ เขาจะมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เขาทำได้ และก็กลับมาลุยงาน ได้เต็มที่แน่ ๆ เป็นเด็กที่มีวินัย มีความรับผิดชอบ ส่งพลังบวกมาตลอด ซึ่งผู้จัดการก็รอ ไปหาพิ้งกี้ด้วยเหมือนกัน อันนี้พูดในฐานะ ที่เราเป็นเพื่อนกัน ไม่เกี่ยวกับเรื่องคดี เบนซ์มั่นใจว่าจะผ่านจุด ๆ นี้ ไปได้ ต้องการจะให้กำลังใจและก็คอยซัพพอร์ตไปเรื่อย ๆ “

Don’t Worry Darling แรกเริ่มนั้น มันเป็นหนังที่โปรแกรม จะเข้าฉายในโรงบ้านเรา ก็นั่นแหละ แต่ว่าไม่ทราบว่าไป ๆ มา ๆ จึงถูกถอดวันฉายออกไป ดื้อ ๆ ภายหลังที่กระแสของหนัง แล้วก็รายได้ของหนัง ไม่ค่อยจะปัง สักเท่าไหร่นัก แต่ว่าจนแล้วจนรอดเราก็ได้ดู “Don’t WorryDarling” หนังระทึกขวัญ ที่เป็นผลงานจัดจ้าน ที่ร่วมดาราผู้แสดง ชั้นแนวหน้าเอาไว้ ได้อย่างน่าสนใจ

Don’t Worry Darling เป็นเรื่องราวของ อลิซ แล้วก็ แจ็ค

โชคดีมากพอ ที่ได้อาศัยอยู่ในชุมชน ในฝันของใครหลายคน ที่ชื่อว่า วิคตอรี่ หมู่บ้านขององค์กรหนึ่ง ที่ให้พนักงานชาย ผู้ร่วมโปรเจกต์ลับวิคตอรี่ อาศัยอยู่กับครอบครัวของเขา มุมมองของโลกอันสวยงามในปี 1950 ริเริ่ม โดย แฟรงค์ ประธาน ไลฟ์โค้ช ผู้สร้างแรงบันดาลใจ แล้วก็วิสัยทัศน์ ที่เสมอภาค โดยเขานั้น ยึดทุกมุมมองของชีวิต ในดินแดนแห่ง ความฝันนั้นเป็นหลัก

ในขณะทีสามี ใช้เวลาทุก ๆ วันของเขา ในฐานทัพหลัก ของโปรเจกต์วิคตอรี่ เพื่อทำงานเกี่ยวกับ การพัฒนาวัสดุเพื่อความก้าวหน้า เหล่าภรรยาของพวกเขา รวมถึง เชลลีย์ คนรักคนงามของ แฟรงค์ ต่างก็ใช้เวลาเพลิดเพลิน ไปกับความสวยความงาม ความหรูหรา

แล้วก็แสงสีเสียง ชวนเมาในชุมชนของพวกเขา ชีวิตนั้นช่างสมบูรณ์แบบ แม้ว่าทุกครอบครัว ต้องไปพบองค์กรใหญ่ อย่างสม่ำเสมอ แล้วก็แลกกับการ ที่พวกเขาห้ามต่อต้าน ห้ามตั้งปัญหาอะไรก็ตามเกี่ยวกับวิคตอรี่ เด็ดขาด

นี่คือว่า เป็นผลงานที่ผู้แสดงสาวมีชื่อเสียง “โอลิเวีย ไวลด์” ได้รับโอกาสจากสตูดิโอใหญ่ ให้กับมากำกับหนัง เป็นครั้งแรก แม้ว่าเธอจะสั่งสมประสบการณ์ จากผลงานเรื่องก่อน ๆ ทั้งยังหนังสั้น, มิวสิควิดีโอ แล้วก็หนังเปิดตัว เรื่องดัง Booksmart เมื่อไม่กี่ปีก่อนนี้

การกลับมาครั้งนี้ นับได้ว่าเป็นงานท้าทาย สำหรับเธอ เพราะเหตุว่าต้องมาหยิบจับ งานสเกลที่ใหญ่ขึ้น จากเดิมหลายเท่าตัว

รวมทั้งนั่นแหละ ที่น่าจะเป็นหนึ่ง ในปัญหาของ Don’tWorry Darling ด้วยความที่หนังมีสเกล แล้วก็รายละเอียดที่ค่อนข้างจะใหญ่ เกินตัวโอลิเวีย ที่บอกตรง ๆ เธอยังคงค่อนข้างจะใหม่

กับวงการเบื้องหลัง ในฐานะผู้กำกับอยู่ เธอเคยเพียงกำกับกองถ่ายเล็ก ๆ กับหนังนอกกระแส มาเท่าไหร่ เมื่อต้องมาจับ งานสร้างภาพยนตร์เมนสตรีมเช่นนี้ พลังแล้วก็วิถีทางของเธอนั้น บางทีอาจยังไม่สามารถที่จะควบคุมหนังเรื่องนี้ ได้พอเพียง

ในส่วนของบทหนัง ที่ได้นักเขียนคู่บุญ “แคธี ซิลเบอร์แมน” กลับมาทำงานด้วยกันอีกรอบ แต่ว่าก็กลายเป็น โอลิเวีย ไวลด์ นักเขียนสาวผู้นี้ ยังค่อนข้างจะมีประสบการณ์ ไม่มากสักเท่าไหร่ แม้ว่าเธอจะไปได้สวยกับ Booksmart กับก่อนหน้าที่ มีหนังรอมคอม Isn’t It Romantic ที่ก็ไม่ได้เป็นหนัง ที่ปังอะไร เมื่อต้องมารับงานเขียน หนังเชิงพาณิชย์แบบเน้น ๆ ก็น่าจะใหญ่เกินตัวไป สำหรับเธอเหมือนกัน

นั่นจึงส่งออกมา ทำให้บทหนังของ Don’t Worry Darling ค่อนข้างจะเรียบเฉย แม้ว่าจะพยายามสร้างมิติ เชิงซ้อนออกมา ให้ดูหวือหวา กลับยังไม่สามารถซื้อใจ คนดูไปได้สักเท่าไหร่ แล้วยิ่งมาผนวก กับแนวทางการกำกับ

แล้วก็งานสร้างด้วยแล้ว ยิ่งทำให้มีความรู้สึกว่า หนังหลงทิศหลงทาง ไปในบางจุด เป็นหนังที่มีจุดไคล์แมกซ์ แต่ว่าเสมือนไม่มี หลายแนวทางมองยังไม่ใช่ ที่ใช่ทางในตัวของหนัง โดยเฉพาะการเล่าเรื่อง ที่ชวนหัวเสียไป ในบางคราว

แต่ว่าสิ่งเดียว แล้วก็สิ่งที่ดีที่สุดที่ในหนัง Don’t Worry Darling เรื่องนี้มีอยู่ซึ่งก็คือ “ฟลอเรนซ์ พิวจ์” เพราะเหตุว่าเธอคือหญิงแค่ หนึ่งเดียวที่สามารถแบกหนังทั้งเรื่องนี้ เอาไว้บนบ่าตัวเอง เพียงผู้เดียว นี่คือผลงาน การแสดงระดับ มาสเตอร์พีชของเธอ ที่เป็นงานแสดงที่ดี ใช้ได้กลับมาอยู่ในหนัง ที่ไม่มีอะไรให้น่าจดจำเท่าไหร่นัก การมีอยู่ของฟลอเรนซ์ คือไฮไลต์ ที่เด็ดที่สุดของเรื่องนี้

การแสดงแบบน้อยแต่มาก ที่ให้ผลลัพธ์ออกมา ได้อย่างพึงพอใจของเธอ

พยายามที่ช่วยแก้ไข จุดอ่อนต่าง ๆ ของหนังเรื่องนี้ในหลายซีน แต่ว่าถึงแม้ว่าการแสดงของเธอ จะดีสักเพียงใด ก็ยังถูกกลบไปด้วยองค์ประกอบ ที่ค่อนข้างจะไม่น่าอภิรมย์ สักเท่าไหร่ในหนังเรื่องนี้ ไปอย่างโชคร้าย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ดี เพียงแค่สิ่งเดียว ที่พบเจอได้ ในหนังเรื่องนี้

ในตอนที่นักแสดงคนอื่น ไม่ว่าจะเป็น “แฮร์รี่ สไตล์ส” ที่ก็ยังเข้าไม่ถึงบทนี้ สักเท่าไหร่ ด้วยชั่วโมงบินทางการแสดงของเขา ยังค่อนข้างจะน้อยอยู่ เป็นไอดอลหนุ่ม ที่มีฝีมือทางการแสดงอย่างชัดเจน

แต่ว่ายังต้องขัดเกลา แล้วก็ใช้เวลามากกว่านี้ รวมถึง “คริส ไพน์”, “เกมมา ชาน”, “กิกี้ เลย์น” รวมไปถึง โอลิเวีย ไวลด์ พวกเขาต่างให้ การแสดงที่ดีตามมาตรฐาน เพียงแต่มันยังไม่เพียงพอ ที่สามารถจะช่วยกันประคองหนัง เอาไว้ได้แบบทีม

แต่ว่าประเดี๋ยวจะหาว่า ใจจืดใจดำเกินไป เอาจริง ๆ อีกสิ่งที่ต้องการจะดู หนังใน Don’t Worry Darling เรื่องนี้อยู่เช่นกัน ก็คือองค์ประกอบโปรดักชั่นดีไซน์ต่าง ๆ ยอมรับเลยว่าเรื่องนี้ ทำมาค่อนข้างจะดีเลย

นับได้ว่าเป็นงานสร้าง ที่ค่อนข้างจะลงดีเทล แล้วก็น่าตื่นตาตื่นใจได้ดีกว่านี้ หากว่าได้มีประสบการณ์ได้ ไปดูเรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์ เพราะเหตุว่าจัดว่าองค์ประกอบตรงจุดนี้ ของเขาก็ไม่ได้ น่าเกลียด มีท่วงทำนองแล้วก็รสนิยม ที่จัดจ้านพอสมควรเลย

โดยภาพรวม แล้วนั้น Don’t WorryDarling อาจจะไม่เชิงว่าเป็นหนัง ที่น่าผิดหวัง เพียงคนดูอาจ คาดหวังมากจนเกินไปเพราะเหตุว่าได้เห็น ทีมนักแสดงชุดใหญ่ ไฟกะพริบขนาดนี้

แต่ว่าโดยรวม ของหนังออกมา ได้แบบยังไปไม่สุดสักทาง บทหนังไม่ลึกซึ้ง การเล่าเรื่อง ยังมีปัญหา แต่ว่านับว่าดี ที่ยังมีนักแสดงที่พยายาม ช่วยยื้อศักยภาพ ของหนังเอาไว้อย่างเต็มกำลัง ท้ายที่สุดจึงออกมา เป็นหนังที่ค่อนข้างจะโคลงเคลง ไปสักนิดสักหน่อย ดูได้พอผ่าน ๆ กลับยังไม่มีอะไร ให้ตราตรึงใจเท่าไรนักเท่านั้นเอง

จบรักครั้งเก่าไปนาน แต่ว่านางเอกสาว มุก วรนิษฐ์ ถาวรวงศ์ ก็ยังถูกโยงไม่จบ หลังสาว เทีย เดอะ เฟซ อัปรูปยิ้มคู่ มุก ในไอจีสตอรีแล้วก็ มุก ก็รีโพสต์ ตรงกับตอนที่ จีน่า–วิรายา เดอะเฟซ ออกมายอมรับ ว่าเลิกรากับ ทอย–ปฐมพงศ์ อดีตแฟนหนุ่มของ มุก ซึ่ง เทีย แล้วก็ จีน่า ก็เคยตกเป็นประเด็นกัน

เจอ มุก ร่วมงานแถลงข่าว “GMM TV 2023 : DIVERSELY YOURS” เลยคว้าตัวมาเคลียร์ ถึงเรื่องที่ มีคนโยงหลัง เทีย แท็กสตอรีเรามา?

“ อ๋อ เค้าแท็กสตอรีมา เราก็รีโพสต์แค่นั้นเลย ”

มันเป็นตอนที่จีน่าเลิกกับทอย คนก็เลยจับโยง เพราะเทียก็เคยมีประเด็นกับจีน่า?

“ หนูไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้นแล้วดีกว่า คือเพื่อนแท็กสตอรีมา เราก็รีโพสต์เป็นเรื่องปกติ มุกตกใจเรื่องประเด็นติ๊กต่อกมากกว่า มันจะมีอันหนึ่ง ที่ลิปซิงก์ยาว ๆ ซึ่งอันนั้นมันปีกว่าแล้ว แล้วมีคนเอามาลงอีกรอบหนึ่ง แล้วแอปก็เก่ง พอมีเรื่องก็ดึงขึ้นมา ทำให้คนพูดถึงกัน แต่ว่าจริง ๆ หนูไม่ได้เกี่ยวข้อง เดี๋ยวนี้ชีวิตหนูมีความสุขดี ”

เวลาคนจับโยงมันส่งผลกระทบกับเรามั้ย?

“ เพื่อน ๆ ก็ส่งมาว่า เฮ้ย เราโดนดึงเข้าไป กล่าวถึงอีกแล้ว ซึ่งชีวิตมุกมันไปเรื่องอื่นแล้ว ถามว่ามีคอมเมนต์ด้านลบเยอะมั้ย มุกไม่ค่อยได้รับอะไร ที่มันเป็นด้านลบ มุกรู้สึกว่าอะไรที่มันผ่านไป และก็ให้มันผ่านไป ทุกอย่างมันเคลียร์ไปแล้ว”

แล้วสถานะหัวใจเราเดี๋ยวนี้มีใครใหม่หรือยัง?

“ ไม่มีเลย โสดค่ะ จีบได้นะคะ (หัวเราะ) คือก่อนหน้านี้ที่ถ่ายรูปกับน้อง ๆ ผู้ชาย หนูก็จะมีแคปชันว่า ป.ล.อันนี้ถ่ายแบบนะ อันนี้น้องนะ กลัวว่าพอเห็นปก ก็จะคิดว่าคนนี้แฟนมุก เลยไม่ได้ ๆ เรายังโสดอยู่ ประเดี๋ยวไม่มีคนไหนเข้ามา ”

มีคนเข้ามา จีบบ้างมั้ย?

“ ก็มีบ้างค่ะ แต่ว่าตัวมุกเดี๋ยวนี้คือช่วงอยู่กับเพื่อน แล้วเราชอบคนยากขึ้น เหมือน ว่ากำแพงหนูสูงขึ้น เพราะเราก็อาจต้องศึกษาใครนาน ๆ กลัวว่าคบแล้วจะเข้ากันมิได้ ความกังวลของหนู มันมากขึ้นแบบสองเท่าค่ะ ”

รีวิวหน่อยหนุ่มที่เข้ามาต้องเป็นแบบไหน?

“ หนุ่ม ๆ ที่เข้ามาก็อยากให้เป็นเพื่อนกันได้ มีความหวังดีต่อกัน และก็หล่อหน่อยก็ดีค่ะ (หัวเราะ) ชอบคนหล่อค่ะ แต่ว่าต้องเป็นคนดีค่ะ อันนี้สำคัญที่สุดเลย ”

ถามเรื่องที่ เมฆ–จิรกิตต์ พี่ชายเราหมดสัญญากับ GMMTV แล้ว เค้ามีมาปรึกษาเรามั้ย?

“ ก็เป็นการตัดสินใจของเค้าค่ะ เค้าก็มีคิดอยู่ว่า เค้าจะไปทางไหนดี แต่ว่าเท่าที่มุกได้ยินเป็นเค้าอยากไปเรียนต่อ อยากรู้ว่าตัวเองชอบอะไร รู้สึกว่าเค้าจะไปต่างประเทศนะ เค้าเป็นคนติสต์ เราไม่รู้จริง ๆ ว่าเค้าจะเอายังไงกันแน่ เราก็ตามใจพี่ชายค่ะ ตัวเค้าก็มีความชอบหลายอย่าง เดี๋ยวนี้เค้าก็เริ่มชอบธุรกิจแล้ว ก็ต้องลองดูว่าถัดไป เค้าจะเป็นอย่างไร ”

มุกยังมีความสุขกับการเป็นนักแสดงในสังกัดใช่มั้ย?

“ ใช่ มุกเพิ่งเซ็นสัญญาไปค่ะ ต่ออีก 5 ปีค่ะ รวมและก็เป็น 15 ปี เรามิได้มีปัญหา กับค่ายทั้งพี่เมฆทั้งมุกเลย ตอนเซ็นสัญญาใบแรก มุกมีความรู้สึกว่าเราอยากทำงานเยอะ ๆ เราคาดหวังเยอะ พอสัญญาใบที่สอง เราก็เริ่มขอบทบาทที่มันอยากทำ แต่ว่าพอเป็นใบที่สามแล้ว ก็มีความรู้สึกว่าอยากเป็นตัวเอง อยากทำอะไรเราก็ทำ ไม่ต้องการทำหนู ก็ขอพูดได้มั้ย เดี๋ยวนี้มุกก็มุ่งหน้า มาทางธุรกิจเช่นกัน ”

“มุก วรนิษฐ์” ต่อสัญญาสังกัดเดิม5ปี แจง คลิปติ๊กต๊อกเป็นคลิปเก่าไม่ได้ กล่าวถึงใคร

ภายหลังที่ ดาราหนุ่มหน้าใสอย่าง “เมฆ จิรกิตติ์ ถาวรวงศ์” พี่ชายของ “มุก วรนิษฐ์” ได้ออกมาประกาศ ไม่ต่อสัญญากับสังกัดเดิม แล้วก็ผันตัวเป็นนักแสดงอิสระ

ปัจจุบัน น้องสาวอย่าง “มุก วรนิษฐ์” ได้เปิดเผย ถึงประเด็นนี้ว่า ” มุกก็ตามใจพี่ชายค่ะ มุกก็มีความรู้สึกว่าถ้าหาก เราทำงานแวดวงต่อมัน ก็มีโอกาสนะ แต่ว่าตัวเขาเอง ก็มีอะไรหลาย ๆ อย่างที่อยากทำ เดี๋ยวนี้เขาก็เริ่มถูกใจธุรกิจแล้วด้วย ถัดไปเค้าจะเป็นอย่างไรก็ยังให้กำลังใจเขา เดี๋ยวนี้เท่าที่รู้ คือเขาพักงานวงการไปก่อนเลย แต่ว่าไม่กี่เดือน เขาขออยู่กับตัวเองก่อน ว่าอันที่จริงแล้วตัวเองชอบอะไร

ก็จัดว่าไม่ใช่ข่าวร้าย ไม่ใช่ข่าวดี ถือได้ว่าเป็นการเติบโต การเปลี่ยนผ่านของชีวิต มิได้ถึงขนาดล่ำลาวงการ ส่วนของมุก ก็เพิ่งเซ็นสัญญาไปค่ะ ต่ออีก5 ปีค่ะ รวม ๆ และก็เป็น 15 ปี ถ้าหากจะพูดว่าเรามีปัญหาอะไร กับค่ายหรือไม่ ต้องพูดว่าไม่มี ทั้งพี่เมฆ ทั้งมุกเลย ก็รักตรงนี้มากค่ะ อย่างสัญญาใบแรกมุก ก็ต้องการจะทำงานเยอะ ๆ อยากลองทำอะไรใหม่ ๆ เยอะๆ อยากเล่นซีรีส์เยอะ ๆ เราคาดหวังเยอะ

อย่างสัญญาใบที่สอง เราก็เริ่มอยากทำบทที่อยากทำเพิ่มมากขึ้นค่ะ แต่ว่าพอเป็นใบที่สาม ก็มีความรู้สึกว่าอยากเป็นตัวเอง อยากทำอะไร เราก็ทำ ไม่ต้องการทำอะไรหนู ขอพูดได้ไหม ขอปรึกษากันอย่างงี้อะค่ะ ในทางบทบาทมุกคิดว่ามุกอยาก ทำอะไรที่มันสุขใจ ดูแลสุขภาพ ดูแลครอบครัว 3ปีที่แล้วมุกเสียคุณพ่อ อยากโฟกัสชีวิตเพิ่มมากขึ้น ไม่ต้องการเสียอะไร ไปอีกแบบนี้ค่ะ ”

นอกจากนั้น “มุก วรนิษฐ์” ยังได้อธิบายถึง คลิปในติ๊กต๊อก ที่เจ้าตัวลิปซิงก์ คือเรื่องราวในประมาณว่าถูกแย่ง คนที่ชอบไป แล้วมีคนเอาไปโยงพาดพิงถึงคนอื่นนั้น

ซึ่งสาวมุก ก็ได้เปิดเผยว่าคลิปดังกล่าว เป็นคลิปเก่าปีกว่าแล้ว ก็มีคนเอามาลงใหม่ คนก็กล่าวถึงกัน เอาไปโยง เป็นตัวเราเราเองไม่เกี่ยวข้อง กับเรื่องของใคร อยากบอกว่าทุกคนมันไม่เกี่ยวกับหนูแล้วนะ เดี๋ยวนี้หนูก็มีความสุขดี ส่วนสถานะหัวใจตอนนี้ยังโสด.